‘ภูมิธรรม’ นัดแกนพรรคร่วมถกเคลียร์ ‘2ปมร้อน’ วันนี้ เร่งหาแนวแก้ รธน.-เอ็มโอยู44 รทสช.ค้านประชามติ 2 หน

 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลถึงความเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมือง หลังเกิดกระแสวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลประเด็นต่างๆ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นัดหมายแกนนำพรรครัฐบาลพูดคุยถึงความคืบหน้าการทำงาน ปัญหาและข้อเสนอต่างๆ ที่แต่ละพรรคการเมืองจะยกมาพูดคุย ในวันที่ 4 พฤศจิกายน เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ต้องจับตาว่าจะมีการหยิบยกประเด็นบันทึกข้อตกลงไทย-กัมพูชา (MOU44) เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล หลังกัมพูชาลากเส้นเขตแดนทับเกาะกูดของไทย รวมถึงเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีแนวโน้มอาจมีข้อติดขัดและไม่สามารถทำได้ตามกรอบเวลาที่วางไว้

แหล่งข่าวระดับสูงกล่าวว่า การนัดหารือไม่มีอะไรพิเศษ เป็นการพูดคุยกันเป็นประจำทุกเดือนเพื่ออัพเดตการทำงานและคุยเรื่องทั่วๆ ไป ส่วนจะมีประเด็นใดที่พูดคุยกันบ้างขึ้นอยู่กับแกนนำแต่ละพรรคจะนำเสนอขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือกรณีเอ็มโอยู 44 เรื่องนี้ต้องบอกว่าไม่มีอะไรตามที่มีกระแสวิจารณ์ให้เกิดความสับสน และเกาะกูดยังเป็นของไทยตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ส่วนมีเรื่องอื่นขึ้นมาพูดคุยเพิ่มเติมต้องรอจากที่ประชุม

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติ กล่าวถึงการประชุม กมธ.วันที่ 6 พฤศจิกายน เพื่อพิจารณาแก้ไขหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้นในการทำประชามติ ว่า การประชุมจะหารือเรื่องหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้นในการทำประชามติ ซึ่งตนจะขอหารือลดหลักเกณฑ์จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิที่กำหนดว่าต้องมีไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงให้มีจำนวนลดลง ทั้งนี้ การกำหนดจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิประชามติต้องไม่น้อยกว่า 50% ถือว่ามากไป โดยเฉพาะถ้าเป็นการทำประชามติเรื่องที่ประชาชนไม่สนใจ อาจทำให้ประชามติเป็นโมฆะได้ จึงควรปรับลดลง แต่จะลดลงเท่าไรนั้นให้มาหารือกันในที่ประชุม เช่น อาจปรับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเหลือ 20-30% จะทำได้หรือไม่ เป็นการหาแนวทางประนีประนอม

ด้าน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอแนวทางเพื่อเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลดทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง ว่า เรื่องนี้เคยเสนอเข้าสู่สภาแล้ว และที่ประชุมเคยมีมติว่าต้องปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั่นคือต้องทำประชามติ 3 ครั้ง นอกจากนี้รัฐธรรมนูญยังมีบทบัญญัติว่าหากจะแก้ไขมาตราใดต้องมีการทําประชามติอีกครั้งด้วย ดังนั้น หลักการของพรรค รทสช.คือต้องทําตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/politics/news_4880667