กรมการค้าภายใน  คุมเข้มชายแดนใต้  ป้องกันลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม  หลังราคาในประเทศพุ่ง  หวั่นกระทบเกษตรกร

วันที่ 3 พ.ย.67 - นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน  เปิดเผยว่า  จากสถานการณ์ราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  อาจเป็นแรงจูงใจให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน  ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตภายในประเทศ  ทำให้ราคาตกต่ำ  และสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม

ดังนั้น  กรมการค้าภายใน  จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ  ลงพื้นที่  สนธิกำลังร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด  นายตรวจชั่งตวงวัด เจ้าหน้าที่ศุลกากรในพื้นที่  เพื่อเฝ้าระวัง  และตรวจสอบการลักลอบนำเข้า  และขนย้ายน้ำมันปาล์ม  โดยมุ่งเน้นพื้นที่เขตชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน  รวมทั้งตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน  ทั้งโรงสกัด  และจุดรับซื้อ  (ลานเท)  ในพื้นที่แหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ  เช่น  จังหวัดสงขลา  สตูล  และกระบี่

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ  ยังไม่พบการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มแต่อย่างใด  แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเข้มงวด  และขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ทั้งศุลกากร  และฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่  ให้ความสำคัญในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม

สำหรับการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน   พบว่าผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด  มีการแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจน  และไม่พบพฤติกรรมการกดราคา  โดยราคารับซื้อผลปาล์มทะลายขณะนี้อยู่ที่  8 – 9  บาทต่อกิโลกรัม  ซึ่งสอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบ  และเป็นระดับราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ

นายอุดม  กล่าวเตือนผู้ประกอบการ  ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด  โดยเฉพาะการขนย้ายน้ำมันปาล์มปริมาณเกินกว่า  25  กิโลกรัมขึ้นไป  ต้องได้รับอนุญาตก่อน  รวมถึงการรับซื้อผลปาล์มทะลาย  ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์  เงื่อนไข  และแจ้งปริมาณ  สถานที่เก็บ  พร้อมจัดทำบัญชีคุมสินค้า  หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย

ทั้งนี้  หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายผลปาล์มน้ำมัน  หรือพบเห็นการกระทำความผิด  สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน  1569  กรมการค้าภายใน  หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ