วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2567
30 ต.ค. 2567 12:47 | 625 view
@pracha
‘นายกสภาทนายความ’จ่อจัดการ‘ทนายหิวแสง’ฉ้อโกงลูกความ เร่งประสาน‘ประธานกรรมการมรรยาท’ตรวจสอบด่วน ขอให้มั่นใจแค่ทนายส่วนน้อย ตรวจสอบพบบางคนโดนร้องเรียนกว่า 20 คดี
30 ตุลาคม 2567 ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินคดีมรรยาททนายโซเชียล หรือทนายหิวแสง ต่อสื่อมวลชนว่า ได้ประสานความร่วมมือกับประธานกรรมการมรรยาท สภาทนายความ เพื่อตรวจสอบเอาผิดทนายความที่ประพฤติผิดมรรยาทอย่างจริงจัง และเร่งรัดการพิจารณาคดีมรรยาทที่ทนายโซเชียล ได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กร และสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ หากมีข้อเท็จจริงปรากฏตามสื่อต่างๆสามารถที่จะหยิบยกนำมาเป็นคดีมรรยาทได้ทันที เพราะเป็นเรื่องที่ความปรากฏอย่างชัดแจ้ง
ดร.วิเชียร กล่าวว่า ในการพิจารณาคดีมรรยาท ในเบื้องต้นนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานกรรมการมรรยาท และกรรมการมรรยาทสภาทนายความ เมื่อคณะกรรมการมรรยาท พิจารณาคดีแล้วเสร็จ จึงจะส่งสำนวนคดีมรรยาทให้แก่นายกสภาทนายความเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคณะกรรมการบริหารสภาทนายความมีอำนาจในการที่จะทำคำสั่ง หรือคำวินิจฉัย โดยมีอำนาจอิสระที่จะจำหน่ายคดี ยกข้อกล่าวหา ลดโทษ หรือเพิ่มโทษได้ด้วย เมื่อมีการพิจารณาคดีเสร็จ นายกสภาทนายความจะส่งเรื่องคืนไปยังประธานกรรมการมรรยาท เพื่อแจ้งให้คู่กรณีได้รับทราบผลคดี และเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ประธาน กรรมการมรรยาท จะแจ้งคำสั่งลงโทษนั้นไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม และเนติบัณฑิตยสภา เพื่อทราบต่อไป อนึ่ง โทษที่จะลงแก่ทนายความที่ประพฤติผิดมรรยาททนายความนั้นมีอยู่ 3 ประการ คือ
1.ภาคทัณฑ์
2. ห้ามการเป็นทนายความไม่เกิน 3 ปี
3. ลบชื่อจากทะเบียนทนายความ
ดร.วิเชียรกล่าวต่อว่า หากทนายความคนใดได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอก ฉ้อโกง หรือตระบัดสินลูกความ หรือประกอบอาชีพ ดำเนิน หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ถือว่าเป็นเหตุที่จะทำการลบชื่อจากทะเบียนทนายความได้ รวมถึงการเสี้ยมสอนให้พยานเบิกความเท็จ หรือทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ การอวดอ้างว่าตนเองเก่งกว่าทนายคนอื่น หรือ อวดอ้างว่ามีพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใดอันกระทำให้ลูกความหลงเชื่อว่าตนสามารถทำให้ลูกความได้รับประโยชน์พิเศษนอกจากทางว่าความ หรือจะชักจูงใจผู้นั้นช่วยเหลือทางคดีได้ หรือแอบอ้างขู่ว่าถ้าไม่ให้ตนทำคดีนั้นแล้วจะหาทางให้ผู้นั้นทำให้คดีลูกความแพ้ หรือการเรียกรับเงินไปวิ่งเต้นคดี การแย่งคดี หรือจงใจขาดนัดหรือทอดทิ้งคดี เป็นต้น ล้วนแต่เป็นการประพฤติผิดมรรยาททั้งสิ้น
“สุดท้ายนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ามีเพียงทนายความบางคนเท่านั้นที่สร้างปัญหา และคนเหล่านี้จะต้องถูกจัดระเบียบอย่างจริงจัง และสมาชิกทนายความส่วนใหญ่รักองค์กร พร้อมที่จะอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน และพร้อมที่จะช่วยกันรักษาองค์กรให้เป็นที่พึ่งประชาชนสืบต่อไป” ดร.วิเชียร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบข้อมูลคดีมรรยาทของทนายความโซเชียลคนดังหลายคนว่าล้วนมีคดีมรรยาทติดตัวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาท ซึ่งทนายความคนดังบางคนถูกร้องเป็นคดีมรรยาทมากกว่า 20 คดีแล้ว และทนายความคนดังหลายคนถูกพักใบอนุญาตให้เป็นทนายความ และบางคนถูกลบชื่อจากทะเบียนทนายความไปแล้ว
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 17:12 118 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 16:06 128 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 15:59 93 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 15:13 98 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 14:38 104 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 14:24 89 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:38 96 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:10 107 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:07 103 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 12:58 136 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 12:52 103 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:53 132 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:51 123 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:37 115 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 10:38 190 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 10:19 204 views