วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2567
29 ต.ค. 2567 16:01 | 1960 view
@yaovarest
องุ่นไชน์มัสคัส: ความลับของรสชาติหวานกรอบ และความจริงที่ควรรู้
องุ่นไชน์มัสคัส ผลไม้ยอดฮิต ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อกรอบ ไร้เมล็ด ราวกับเยลลี่ แต่เบื้องหลังความอร่อยนี้ มีกระบวนการผลิตที่น่าสนใจ และอาจสร้างความกังวลใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระแส "สารเคมีตกค้าง" บทความนี้จะพาไปสำรวจที่มาที่ไป รวมถึงข้อเท็จจริง เพื่อคลายความกังวลใจของทุกคน
จุดกำเนิดของความอร่อย
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2531 ณ ดินแดนอาทิตย์อุทัย นักวิจัย ณ สถานีวิจัยองุ่นและพลับอะกิซึ จังหวัดฮิโรชิม่า ประสบความสำเร็จในการผสมข้ามสายพันธุ์องุ่น Akitsu 21 และ Hakunan ได้ผลลัพธ์เป็นองุ่นสายพันธุ์ใหม่ ที่เรียกว่า "Shine Muscat" โดดเด่นด้วยรสชาติ และลักษณะที่พิเศษ
ความนิยมของไชน์มัสคัส ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว จากญี่ปุ่นไปสู่ทั่วโลก รวมถึงประเทศจีน ซึ่งเล็งเห็นโอกาสทางการค้า และใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผลิตองุ่นไชน์มัสคัสคุณภาพดี ในปริมาณมาก ส่งผลให้ราคาถูกลง และเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น รวมถึงประเทศไทย
เบื้องหลังความอร่อย กับ 3 สารสำคัญ:
เพื่อให้ได้องุ่นไชน์มัสคัส ตามมาตรฐาน มีการใช้สารในการควบคุมการเจริญเติบโต ซึ่งได้แก่:
สารเหล่านี้เป็นอันตรายจริงหรือ?
สารทั้ง 3 ชนิด ได้รับอนุญาตให้ใช้ในกระบวนการผลิตพืชผลทางการเกษตร โดยมีการกำหนดปริมาณการใช้ที่ชัดเจน และสารเหล่านี้จะสลายตัวไปในระหว่างกระบวนการเก็บเกี่ยว แปรรูป และการปรุงอาหาร
อย.ยืนยัน องุ่น ไชน์มัสคัส ทานได้ไร้กังวล
คณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เปิดเผยว่า จากข่าวที่ระบุพบมีการใช้สารกำจัดศัตรูพืช 50 รายการใน 24 ตัวอย่าง โดยข้อเท็จจริงแล้วผลการตรวจพบว่ามีสารกำจัดศัตรูพืช 36 รายการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานมีความปลอดภัย ส่วนสารกำจัดศัตรูพืช อีก 14 รายการ เป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่ระดับสากล ไม่ได้จัดอยู่ในรายการเฝ้าระวัง เนื่องจากไม่มีข้อมูลการก่ออันตราย แต่จะมีการกำหนดค่ามาตรฐานที่ไม่เกิน 0.01 ppm ซึ่งผลการตรวจพบเกินเพียงเล็กน้อย จึงสามารถรับประทานองุ่นไชน์มัสแคทได้ แต่ควรล้างให้ถูกวิธีเพื่อลดสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างดังกล่าว
สารกำจัดศัตรูพืช: อีกหนึ่งความกังวลที่ต้องระวัง
สารกำจัดศัตรูพืช เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดสารตกค้างในพืชผักผลไม้ รวมถึงองุ่นไชน์มัสคัส
สำหรับสารที่เป็นอันตรายและน่ากลัวที่สุดของ พืช ผัก ผลไม้ ของไทย คือกลุ่มสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือ ยาฆ่าแมลง อาทิ Imazalil, Thiamethoxam, Tetraconazole, Chlorfenapyr, Flonicamid, Ethirimol, Pyriproxyfen, Lufenuron, Bupirimate, Prochloraz, Hexaconazole, Bromacil และ Isopyrazam เป็นต้น
เนื่องจากไทยมักพบศัตรูพืชผักผลไม้ในรูปแบบต่างๆมากมาย ส่วนมากจึงมักใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือ ยาฆ่าแมลง มาช่วยลดความเสียหายในการเพาะปลูก ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่องุ่น ไชน์มัสแคท ที่พบว่ามีสารเหล่านี้ตกค้าง แต่ในพืชผักแทบทุกชนิดก็จะมีสารเหล่านี้อยู่ เพียงแต่สารเคมีเหล่านี้ไม่มากจนเกินมาตรฐาน และทำอันตรายให้กับร่างกายของมนุษย์ได้
ขั้นตอนลดความเสี่ยงสารเคมี
เพื่อความไม่ประมาท หากเราจะรับประทานพืชผักผลไม้ จึงควรล้างให้สะอาดทุกครั้ง เริ่มด้วยการล้างน้ำเปล่า ให้แช่ในน้ำนาน 15 นาที จากนั้นเปิดน้ำไหลซ้ำอีกไม่น้อยกว่า 30 วินาที
กรณีล้างด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟู/เบคกิ้งโซดา) ผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา ต่อน้ำสะอาด 4 ลิตร แช่ให้ท่วมพืชผักผลไม้ นาน 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด กรณีล้างด้วยน้ำเกลือ ผสมเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 2 ลิตร แช่ให้ท่วม 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ถ้าเราล้างทำความสะอาดทุกครั้งก่อนจะรับประทาน พืช ผัก ผลไม้ จะช่วยป้องกันสารเคมีที่จะเข้าสู่ร่างกาย เท่านี้เราก็ปลอดภัยห่างไกลจากสารเคมีค่ะ
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 17:12 107 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 16:06 126 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 15:59 91 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 15:13 96 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 14:38 104 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 14:24 89 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:38 94 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:10 107 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 13:07 102 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 12:58 135 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 12:52 102 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:53 131 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:51 123 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 11:37 115 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 10:38 185 views
ข่าว
11 ธ.ค. 2567 10:19 203 views