บทบาทของการดีเบตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และสื่อในยุคดิจิทัล

การดีเบตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการรณรงค์หาเสียงที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้อย่างมหาศาล หากผู้สมัครแสดงศักยภาพได้ดีบนเวทีดีเบต โอกาสที่จะดึงดูดผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นย่อมมากขึ้น การดีเบตเหล่านี้มักจัดขึ้นอย่างน้อยหนึ่งครั้ง โดยมีหัวข้อที่เป็นประเด็นโต้เถียงในขณะนั้น เช่น นโยบายเศรษฐกิจ การต่างประเทศ และปัญหาภายในประเทศ เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาอภิปรายอย่างเข้มข้น

การดีเบตทางโทรทัศน์ครั้งแรกที่โด่งดังที่สุดเกิดขึ้นในปี 1960 ระหว่างจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และริชาร์ด นิกสัน ซึ่งมีผู้ชมมากกว่า 66 ล้านคน นับเป็นการดีเบตที่มีผู้ชมมากที่สุดในยุคที่โทรทัศน์ยังคงเป็นสื่อหลักของสังคมอเมริกัน และในปี 2016 เวทีดีเบตระหว่างฮิลลารี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ มีผู้ชมสูงถึง 84 ล้านคน นับเป็นสถิติใหม่ของการดีเบตทางโทรทัศน์ในสหรัฐ

นอกเหนือจากการดีเบตทางโทรทัศน์แล้ว บทบาทของสื่อในยุคดิจิทัลก็ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น ทั้งสื่อดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อสังคมออนไลน์ เช่น X (Twitter เดิม), Facebook, Instagram และ YouTube ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โซเชียลมีเดียโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นช่องทางที่ช่วยให้ผู้สมัครสามารถสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักได้รวดเร็วและต้นทุนต่ำ อีกทั้งยังเป็นช่องทางสำคัญในการระดมทุนและการกระจายข้อมูลไปยังผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้โซเชียลมีเดียในการหาเสียงอย่างมีประสิทธิภาพ คือการรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีบารัค โอบามาในปี 2008 ที่ใช้มิวสิควิดีโอเพลง "Yes We Can" ซึ่งถูกส่งต่อในโซเชียลมีเดียและได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยวิดีโอนี้มีผู้ชมถึง 15 ล้านครั้งบน YouTube

ในสังคมที่ชาวอเมริกันกว่า 90% ใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสาร เสพข่าวสาร และแบ่งปันข้อมูล การที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะใช้สื่อทั้งดั้งเดิมและสมัยใหม่ในการหาเสียงจึงกลายเป็นกลยุทธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สื่อทั้งสองประเภทล้วนมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในรูปแบบของตนเอง และยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้ชะตาผลการเลือกตั้งในอนาคต