จากรายงานล่าสุดของ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) พบว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตที่น่าวิตก โดยจำนวนผู้ป่วยจิตเวชที่เข้ารับบริการเพิ่มสูงขึ้นจาก 1.3 ล้านคนในปี 2558 เป็น 2.9 ล้านคนในปี 2566 ซึ่งสะท้อนถึงความรุนแรงของสถานการณ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน 

กลุ่มวัยรุ่น (อายุ 15-25 ปี)

- กลุ่มอายุ 15-18 ปี มีความเครียดจากการเรียนสูงถึง ร้อยละ 38.4

- กลุ่มอายุ 19-22 ปี เผชิญกับความกดดันในการเลือกอาชีพและอนาคต สูงถึง ร้อยละ 60.9 

- ในกลุ่มอายุ 23-25 ปี ความเครียดจากปัจจัยด้านการเงินสูงสุดถึง ร้อยละ 67.1 ตามด้วยเรื่องการเรียนและการทำงานที่ ร้อยละ 66.1

ความเครียดเหล่านี้ทำให้วัยรุ่นและเยาวชนตกอยู่ในภาวะที่อ่อนไหวต่อสุขภาพจิตมากขึ้น โดยเฉพาะการถูกกลั่นแกล้ง (Bully) ที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม ปัญหานี้นำไปสู่การเกิดภาวะซึมเศร้า และลดความมั่นใจในตนเอง ส่งผลให้เยาวชนต้องเผชิญกับความเครียดสะสมและรู้สึกโดดเดี่ยว 

วัยทำงาน (อายุ 25 ปีขึ้นไป)

ในกลุ่มวัยทำงาน ความเครียดจากการทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับการทำงาน การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก หลายคนพบว่าต้องแบกรับภาระงานที่หนักหน่วง ส่งผลต่อสุขภาพจิตจนเกิดปัญหาการนอนไม่หลับ ความวิตกกังวล และความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าและอาการทางจิตเวชอื่นๆ 

การเพิ่มความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพจิตในทุกกลุ่มอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่าปล่อยให้ความเครียดสะสม หมั่นดูแลสุขภาพจิตของตัวเองและคนรอบข้างกันให้ดี หากมีปัญหาควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง