จากกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้รับติดต่อประสานแหล่งข่าวซึ่งชี้ช่องเบาะแสที่ซ่อนทรัพย์สินของกลุ่มผู้บริหารบริษัทดิไอคอนฯ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ พบว่ามี บอสพอล ดิไอคอน นำทรัพย์สินมาซุกซ่อนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา

และมีภาพการตรวจยึด นาฬิกาหรู จำนวนหลาย10เรือน รวมทั้งสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทองที่มีมูลค่าอีกจำนวนหนึ่ง กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนม เบื้องต้นมูลค่าหลาย10 ล้านบาท ต่อมามีมาเหล่านักเล่นนาฬิกาพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เก๊ยันกล่อง ซึ่งน่าจะเป็นของปลอมทุกเรือน มีปาเต๊ะ ที่เก๊ยันกล่อง กล่องพวกนี้ของปาเต๊ะไม่น่าจะมี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้ สัมภาษณ์มติชนออนไลน์ ว่า เรื่องการเข้าตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน ที่คาดว่าจะได้มาจากการกระทำความผิดนั้นตามอำนาจการสืบสวนดดีเอสไอ สามารถขอหมายค้นและเข้าตรวจยึดอายัดไว้ก่อน

เพื่อการยักย้ายทรัพย์ ซึ่งความเป็นจริงแล้วเจ้าหน้าทีี่ดีเอสไอ ที่ลงพื้นที่ไม่ทราบทั้งหมดว่า ของแบรนด์เนมหรือนาฬิกาหรู นั้นเป็นของจริงหรือปลอม 

หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเมื่อมีการแจ้งก็ต้องตรวจยึด เพราะเวลายึดอายัดมาแล้วดีเอสไอจะมีผู้เชี่ยวชาญสิ่งของแต่อย่าง มาตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อแยกว่ สิ่งไหนปลอมหรือแท้ ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างมีการตรวจสอบ  ดีเอสไอมีขั้นตอนและกระบวนการทำงาน

พ.ต.ต.ยุทธนา ยังกล่าวว่า สายข่าวที่แจ้งข้อมูลที่ผ่านมาอย่างเรื่องที่ดินที่อายัดไว้ดีเอสไอก็ตรวจสอบการครอบครองทุกอย่างว่ากันไปตามขั้นตอน