ตำรวจสอบสวนกลาง  เดินหน้าสอบสวนคดี  ดิ ไอคอน กรุ๊ป  ล่าสุดเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ  18  ผู้ต้องหา  โดยเน้น  "ฟอกเงิน"  เป็นหลัก  พร้อมพิจารณาแจ้งข้อหา  พ.ร.ก.กู้เงินฯ  และ  อั้งยี่ ซ่องโจร  ด้วย

พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.  เปิดเผยว่า  หลังจาก พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ บก.ปอศ. ร่วมสอบสวนคดีนี้  ล่าสุดได้หารือกับ พล.ต.ต. พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.  ถึงการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน  ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ

โดยเบื้องต้นจะแจ้งข้อหา "ร่วมกันฟอกเงิน" 

 เนื่องจากพบพฤติกรรมโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สิน  เพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ได้จากการกระทำความผิด  นอกจากนี้  ยังอยู่ระหว่างพิจารณาแจ้งข้อหา  "ความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527"  และ  "อั้งยี่ ซ่องโจร"  เนื่องจากลักษณะการกระทำความผิดเข้าข่ายเป็นองค์กรอาชญากรรม

พนักงานสอบสวน บช.ก. จะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำภายในสัปดาห์นี้  โดยประสานข้อมูลกับตำรวจกองปราบปราม  ซึ่งรับผิดชอบแกะรอยเส้นทางการเงิน  และทรัพย์สินของผู้ต้องหาแต่ละราย  เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยง

หลังแจ้งข้อหา  "ฟอกเงิน"  แล้ว  บช.ก. จะหารือกับ  กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  ซึ่ง พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ  ระบุว่า  คดีนี้เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ  เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก  และมีมูลค่าความเสียหายสูง

ขณะนี้  ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐาน  เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา  กลุ่มที่ 2  เช่น  กลุ่มแม่ข่าย  และพนักงานบริษัท  ที่เกี่ยวข้องกับการลงนามในเอกสาร  คาดว่าจะมีการออกหมายเรียก  หรือหมายจับในเร็วๆ นี้