วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2567
3 ต.ค. 2567 12:26 | 1455 view
@pracha
“สำนักงานสลากฯ” ดีเดย์ 17 ต.ค. 2567 ประเดิมขาย N3 ใบละ 20 บาท ผ่านโครงการร้านค้าสลาก 80 บาท กว่า 400 จุดทั่วประเทศ ฟุ้งลุ้น 4 รางวัล ลั่นพร้อมเก็บข้อมูลประเมินผล ก่อนปักธงขายจริง เม.ย. 2568 หวังช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา – ดูดเงินหวยใต้ดินเข้าระบบ
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการเดินหน้าโครงการ “สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (N3)” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของสำนักงานสลากฯ ว่า สำนักงานสลากฯ กำหนดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก ในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) ให้กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่งวดวันที่ 1 พ.ย. 2567 หรือจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป เป็นเวลา 6 เดือน ผ่านจุดจำหน่ายในโครงการร้านค้าสลาก 80 บาท ทั่วประเทศ กว่า 400 จุด
ทั้งนี้ จะจำหน่ายในราคา 20 บาทต่อรายการ โดยเริ่มต้น 2 ล้านรายการ คิดเป็นวงเงิน 40 ล้านบาท หลังจากนนั้นจะทยอยปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเพดานการจำหน่ายในช่วงทดสอบระบบ 6 เดือนนั้น จะอยู่ที่ 10 ล้านรายการ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยระหว่างนี้จะมีการเก็บรวมรวมข้อมูลการจำหน่าย ผลกระทบต่อลูกค้าและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งผลต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก และจะเริ่มจำหน่ายเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. 2568
“ในช่วงทดสอบระบบ 6 เดือนนี้จะมีการเก็บข้อมูลผลกระทบต่อลูกค้าและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งผลต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักทั้งหมด ซึ่งจะมีการประเมินเป็นระยะ ๆ โดยสลาก N3 นั้น เป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ไขสลากเกินราคาแบบครบถ้วนในทุกมิติยิ่งขึ้น สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนและเป็นไปตามกลไกตลาด สามารถแก้ปัญหาให้ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก ที่ยังไม่สามารถซื้อหมายเลขที่ต้องการได้ ทำให้ต้องไปพึ่งพาทางเลือกอื่น เช่น การจำยอมซื้อสลากเกินราคาเพื่อให้ได้หมายเลขที่ต้องการ และผลพลอยได้คือการดึงเม็ดเงินจากหวยใต้ดินซึ่งมีมูลค่ากว่า 1-3 แสนล้านบาทต่อปี ขึ้นมาอยู่ในระบบ โดยสำนักงานสลากฯ คาดหมายว่าจะสามารถดึงเม็ดเงินจากหวยใต้ดินได้ราว 10-20%” นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับกระบวนการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำเกณฑ์การคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย และข้อกำหนดต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นและพร้อมให้ดำเนินการก่อนเปิดจำหน่ายเต็มรูปแบบในเดือน เม.ย. 2568
พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) จะจำหน่ายในราคาใบละ 20 บาท สามารถเลือกซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีเลขอั้น โดยผู้ซื้อสามารถซื้อสลากในช่วงทดสอบจำหน่ายได้ที่ “ร้านค้าโครงการสลาก 80” ที่เข้าร่วมโครงการกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ สามารถสแกนตรวจสอบจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชันเป๋าตัง และทำรายการซื้อสลากพร้อมชำระเงินผ่านอุปกรณ์ที่สำนักงานสลากฯ ได้ติดตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการที่ต้องชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งในแต่ละครั้งสามารถซื้อสูงสุดได้ไม่เกิน 100 รายการ
ทั้งนี้ สลาก 1 ใบ มีโอกาสถูก 4 ประเภทรางวัล ได้แก่ สามตรง, สามสลับหลัก, สองตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะจ่ายเงินรางวัลในรูปแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อในแต่ละหมายเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้น ๆ กำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง ใช้ผลรางวัลอ้างอิงจากผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยรางวัลสามตรงและสามสลับหลัก จะมาจากเลข 3 ตัวท้ายของผลรางวัลที่ 1, รางวัลสองตรงมาจากผลรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และรางวัลพิเศษจะสุ่มจากผู้ถูกรางวัลสามตรงเท่านั้น โดยจะมีการออกรางวัลพิเศษภายหลังจากการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักเสร็จสิ้นในแต่ละงวด
สำหรับการจ่ายรางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสามารถกดรับเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ทันที โดยจะต้องมีการชำระค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท และการรับเงินโดยวิธีการโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
“สำนักงานสลากฯ จะจำหน่ายสลากด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ ไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถซื้อสลากได้ การกำหนดพื้นที่ในการจำหน่ายสลากห้ามใกล้กับสถานศึกษา เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักแบบดิจิทัล” พันโท หนุน ระบุ
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการจัดสรรรายได้จากการจำหน่าย ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1.เป็นเงินรางวัล 60% โดยในส่วนนี้ แบ่งเป็น 1.รางวัลสามตัวตรง สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 30%, 2.รางวัลสามสลับหลัก สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 30%, 3.รางวัลสองตรง สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 39% และ4.รางวัลพิเศษ สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 1% โดยหากประเภทรางวัลใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะสมทบเงินรางวัลดังกล่าวไปยังงวดถัดไปตามประเภทรางวัล และหากในงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัลอีก จะต้องนำเงินที่สมทบดังกล่าวนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน โดยการออกรางวัล จะแบ่งเป็นเดือนละ 2 ครั้ง ในวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน หรือตามที่สำนักงานสลากฯ กำหนด และส่วนที่ 2.ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน, ส่วนที่ 3.ไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน
ข่าว
22 พ.ย. 2567 13:50 44 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 12:09 56 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 11:53 46 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 11:36 47 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 10:57 47 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 10:20 79 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:52 88 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:31 83 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:25 82 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:22 82 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:20 93 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:12 124 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:07 134 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 18:01 255 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 17:59 171 views
ข่าว
21 พ.ย. 2567 16:08 167 views