รมว.กต. เผย ผลหารือข้อราชการกับบริษัทเอกชนในเกาหลีใต้ เล็ง พัฒนาพื้นที่เขตพิเศษสำหรับนิคมอุตสาหกรรม ส่งเสริมการเข้ามาลงทุน เพื่อขยายความร่วมมือในอนาคต

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการหารือข้อราชการระหว่างรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับหน่วยงานทีมประเทศไทยด้านเศรษฐกิจ และบริษัทเอกชนสาธารณรัฐเกาหลีที่สนใจขยายธุรกิจในประเทศไทย ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ว่า ได้มีการเชิญสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ มาร่วมในการพูดคุยด้วย จึงมีโอกาสได้พูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือกับภาคเอกชนต่างๆของเกาหลีใต้ อาทิ บริษัท Korea Land and Housing Corporation ที่มีความต้องการเข้ามาในลักษณะของการนิคมอุตสาหกรรม เพื่อหาพื้นที่เฉพาะสำหรับดำเนินธุรกิจในไทย

ขณะเดียวกัน ได้พูดคุยกับบริษัท LS Electric ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการวางแพลทฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานทั้งไฟฟ้า ซอร์ฟแวร์ และ Smart Building  ด้วย ฉะนั้นหากเราสามารถดึงกลุ่มนักธุรกิจที่ครบวงจรเช่นนี้มาได้ เชื่อว่าจะทำให้โครงสร้างของนิคมอุสาหกรรมเกาหลีในพื้นที่เขตพิเศษสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น 

พร้อมระบุว่า เมื่อวานได้พูดคุยกับบริษัท SK Bioscience ซึ่งทำธุรกิจผลิตวัคซีนอย่าง influenza ว่าเราอยากจะสนับสนุนให้ร่วมกันวิจัยและพัฒนาการผลิตวัคซีค เพื่อต่อต้านไวรัสและไข้หวัดในสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะโรคอุบัติใหม่ เนื่องจากประเทศไทยพบปัญหาเรื่องโรคเขตร้อน ฉะนั้นหากได้ร่วมมือกันระหว่างองค์การเภสัชกรรมก็จะสามารถพัฒนาวัคซีนใหม่ๆรองรับโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงได้ฝากให้ นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เข้าไปช่วยดูในเรื่องนี้เพื่อขยายความร่วมมือในอนาคต

นอกจากนี้  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้หารือกับบริษัท บริษัท Hyundai Motor และ LG Corporation จึงพบว่าทั้งสองบริษัทสนใจที่จะลงทุนในไทย แม้ว่าจะมีพื้นฐานในการทำธุรกิจร่วมกันอยู่แล้ว แต่อยากจะขยายการลงทุนเพิ่ม จึงได้เน้นย้ำไปว่าประเทศไทยมีศักยภาพในด้านการพัฒนาซัพพลายเชนผลิตอะไหล่ต่างๆ ทั้งสองบริษัทจึงรับปากว่าหากพร้อมก็อยากให้เข้าไปพูดคุยกับนักธุรกิจไทย

ส่วนบริษัท SME อื่นๆที่พัฒนาเวชสำอาง และอาหารเสริมบำรุง นายมาริษ กล่าวว่า บริษัทเหล่านี้ได้ร่วมทุนกับบริษัทในประเทศไทยอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าสามารถร่วมมือกันได้ไม่มีปัญหา พร้อม มองว่าการแลกเปลี่ยนกับบริษัทเอกชนสาธารณรัฐเกาหลีเมื่อวานนี้ เป็นเรื่องดี ที่จะทำให้ภาคเอกชนเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในไทยมากยิ่งขึ้น

ก่อนเปิดเผยด้วยว่า หลังจากพูดคุยเสร็จสิ้น ตนได้ไปเยี่ยมชมSamsung C-lab ต่อ ซึ่งเป็นศูนย์บ่มเพาะสตาร์ตอัปของบริษัทซัมซุง โดยเอกชนจะเป็นผู้ให้ทุนและสนับนักศึกษาจาก Seoul National University ในการพัฒนาธุรกิจ จึงมองว่าเป็นเรื่องดีอยากยิ่งที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ดังนั้นเราจะรับเอาคอนเซ็ปนี้มา และกลับไปคุยในประเทศไทยอีกครั้ง ว่าจะพัฒนาอย่างไร ให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาโลกสมัยใหม่ ขณะเดียวกัน ทางเอกอัครราชทูตฯ ก็จะต้องหาบุคคลากรไทยที่มีศักยภาพเพื่อมาร่วมมือกับภาคเอกชนเกาหลีต่อไป