วันที่ 3 สิงหาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงนี้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตนก็ขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย เคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล คือ หมั่นล้างมือ รับประทานอาหารสุกร้อน สะอาด และใหม่อยู่เสมอ เพราะโรคที่มากับน้ำท่วม จะแบ่งเป็น 4 กลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวัง คือ 1.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม 2.กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ เช่น โรคอาหารเป็นพิษ โรคอุจจาระร่วง 3.กลุ่มโรคติดเชื้อ เช่น โรคไข้ฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และ 4.กลุ่มโรคติดต่อนำโดยแมลง เช่น โรคไข้เลือดออก ส่วนภัยสุขภาพที่ต้องระวัง คือ แมลง หรือ สัตว์มีพิษกัดต่อย ไฟฟ้าดูด และการจมน้ำ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า โรคที่มากับน้ำท่วม สามารถป้องกันและดูแลตัวเองได้ คือ ไม่ทิ้งขยะลงแหล่งน้ำท่วมขัง อย่าปล่อยเด็กลงเล่นน้ำ ล้างมือ ล้างเท้าด้วยน้ำสบู่บ่อยๆ รับประทานอาหารปรุงสุก หลีกเลี่ยงเดินเท้าเปล่าลุยน้ำ ทาโลชั่นกันยุง หากถูกสัตว์มีพิษกัด ให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด และหากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที หรือ สอบถามสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 และนอกจากนี้ ในช่วงฤดูฝน ยังมักพบการระบาดของกลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคโควิด19 โรคปอดอักเสบ และโรคติดเชื้อไวรัส RSV 

“ไวรัส RSV มักพบการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กเล็กเป็นหลัก โดยจากข้อมูลการเฝ้าระวัง ตั้งแต่ 1 ก.ย.64 - 20 ก.ค.67 พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส RSV จำนวน 1,239 ราย จากผู้ป่วยทางเดินหายใจ 19,983 ราย ซึ่งตรวจพบมากที่สุดในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี โดยเชื้อ RSV มักจะเป็นสาเหตุของการเกิดปอดอักเสบรุนแรงในเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งจะพบโรคนี้ได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว โดยเป็นช่วงเดียวกับฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ รวมถึงอาการและการติดต่อ ก็มีความคล้ายกัน จึงคาดว่า จะเริ่มมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงระยะนี้ ดังนั้น ผมขอแนะนำมาตรการป้องกัน เช่น ล้างมือบ่อยๆ หรือ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดของเล่นเด็ก และเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ” รมว.สาธารณสุข กล่าว
////