นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย ขอบคุณผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ หรือ NSDF หลังสนับสนุนสมาคมอย่างเต็มที่ จนมีส่วนสำคัญให้ทีมลูกเด้งไทยสร้างประวัติศาสตร์ ลุยโอลิมปิกเกมส์ ประเภททีมหญิงเป็นครั้งแรก ยืนยันเป้าหมายของสมาคมคือการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ด้วยการไปไกลกว่ารอบ 16  คนในประเภทหญิงเดี่ยว หรือทีมหญิง

นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย เผยถึงความพร้อมทีมเทเบิลเทนนิสไทย ชุดทำศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส ว่าทีมนักกีฬาและโค้ช ออกเดินทางจากไทยไปตั้งแต่คืนวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็เดินทางถึงกรุงปารีสโดยสวัสดิภาพ ส่วนที่ต้องรีบไปก่อนแข่ง 1 สัปดาห์ เพราะอยากให้ปรับตัวกับสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม และสนามแข่งขัน ที่เจ้าภาพจะเปิดให้ลงฝึกซ้อม ส่วนห้องพักที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ นักกีฬาแจ้งกลับมาว่าอยู่ได้ ไม่ได้ถึงกับร้อน แต่ยังต้องระวังเวลาออกไปกลางแจ้งในช่วงกลางวัน ซึ่งอุณหภูมิที่นั่นสูงพอสมควร ส่วนความคาดหวังเราก็อยากจะเห็นนักกีฬาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ในประเภทบุคคลหรือทีมก็ได้ หลังครั้งก่อนที่โตเกียว สุธาสินี เสวตรบุตร เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เข้าถึงรอบ 16 คนสุดท้ายในประเภทหญิงเดี่ยว

"การทำกีฬาเพื่อความเป็นเลิศต้องใช้งบประมาณสูงมาก เพราะต้องยอมรับว่าทุกทีมหรือทุกคนก็ต้องการที่จะเป็นแชมป์ เพราะฉะนั้นการจะไปถึงจุดนั้นได้ ก็ต้องมีการเตรียมตัวที่ดี ซึ่งก็จะเริ่มตั้งแต่การเตรียมเก็บตัวนักกีฬา การฝึกซ้อม การมีโค้ชที่ดี อุปกรณ์ต้องดีและทันสมัยที่สุด การนำวิทยาศาสตร์กีฬามาใช้ สวัสดิการต่างๆ และก็แน่นอนว่าก็ต้องมีการส่งไปแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ซึ่งบางกีฬามีการเก็บคะแนนตลอดปี เหมือนกันเทเบิลเทนนิส ดังนั้นการสร้างนักกีฬาขึ้นมานั้นใช้ทุนสูงมาก ฉะนั้นในประเทศไทย ถือว่าโชคดีที่มีกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เข้ามาช่วยเหลือ" 
 
นายณัฐวุฒิ เผยอีกว่า ในส่วนของการช่วยเหลือนั้นไม่ได้ทำในระยะสั้น แต่มีการวางเป็นโร้ดแมพและเริ่มทำการมาอย่างต่อเนื่อง อย่างโอลิมปิกเกมส์ ก็มีการเตรียมทีมกันมายาว 4 ปี ช่วง 4 ปีจึงใช้งบประมาณอย่างมาก ซึ่งเทเบิลเทนนิสระบบการคัดเลือกนักกีฬา
ยากมาก ต้องใช้ทุน เรียกว่าหากใครไม่มีทุน โอกาสประสบความสำเร็จ ผ่านการคัดเลือกนั้นน้อยมาก เพราะนักกีฬาต้องไปเก็บคะแนนตลอดเวลา จนกว่าผ่านเกณฑ์การคัดเลือก ซึ่งหากหยุดหรือพักไป อันดับโลกก็จะร่วงทันที หรือถ้าไม่ไปแข่งเก็บคะแนน ก็ต้องไปแข่งคัดเลือกระดับโซน อย่างไรก็ตามถ้าได้โควตาโอลิมปิกจากรายการระดับโซน ด้วยการที่อันดับโลกไม่ดีก็มีโอกาสเจอมือท็อปเร็ว โอกาสตกรอบเร็วก็มีมากขึ้น ซึ่งในยุคแรกของปิงปองไทยก็จะเจอปัญหาลักษณะนี้ 

"อย่างไรก็ตามช่วงหลังๆ เราเริ่มส่งนักกีฬาแข่งมากขึ้นและหลายคนมากขึ้น ซึ่งเราก็ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันถี่กว่า 20 รายการ และก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้โควตาประวัติศาสตร์โอลิมปิกเกมส์ในประเภททีมหญิงเป็นครั้งแรก จากการมีอันดับโลกเป็นอันดับที่ 11 ในการประกาศเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังได้โควตา เราก็ให้นักกีฬาเตรียมตัวต่อทันที ทั้งเข้าแข่งขันเก็บคะแนนในแมตช์นานาชาติ รวมถึงไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ออสเตรีย และจีน ต้องขอบคุณกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และภาคเอกชนอีกหลายๆส่วนที่เข้ามาสนับสนุนสมาคมและนักกีฬา จนสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมครั้งประวัติศาสตร์ได้" 

นายณัฐวุฒิ ยังทิ้งท้ายอีกว่า กองทุนฯถือเป็นเบื้องหลังสำคัญที่ช่วยในการยกระดับและพัฒนาวงการกีฬาและนักกีฬาในแต่ละชนิดกีฬาในช่วงเวลาที่ผ่านมา และก็เชื่อว่าหากปรับจูนในเรื่องระบบการเบิกจ่ายงบประมาณไปยังสมาคมกีฬาต่างๆให้กระชับและรวดเร็วมากขึ้นกว่านี้จะยิ่งทำให้สมาคมกีฬาต่างๆสามารถเดินหน้าพัฒนานักกีฬาได้ตามแผนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย" 

สำหรับโปรแกรมแข่งขันของนักกีฬาไทย วันที่ 28 ก.ค. 2024 เทเบิลเทนนิส รอบแรก ( 64 ) ประเภทหญิงเดี่ยว หญิง-สุธาสินี เสวตรบุตร (ไทย) พบ นาตาเลีย บาเยอร์ (โปแลนด์) เริ่มเวลา 16.00 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) และ ทิพย์-อวรวรรณ พาระนัง (ไทย) พบ มาการิต้า เพซอตสกา (ยูเครน) เวลา 16.30 น. (ตามเวลาในประเทศไทย)