จีนอาจใช้สินค้าเกษตร ตอบโต้อียูเรื่องขึ้นภาษีอีวี

ปักกิ่ง/บรัสเซลส์ (รอยเตอร์ส/ซีซีทีวี) - นักวิเคราะห์ในจีนมองว่า การที่สหภาพยุโรป หรืออียู จะเก็บภาษียานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี นำเข้าจากจีนในอัตราสูง อาจทำให้จีนตอบโต้ด้วยการมุ่งไปที่สินค้าเกษตรของอียู    โจ มาเซอร์ นักวิเคราะห์ของทริเวียมไชนา (Trivium China) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในจีนให้ความเห็นกับรอยเตอร์สว่า จีนอาจตอบโต้อียูในภาคการบินและภาคการเกษตร โดยมีแนวโน้มว่าจะเป็นภาคการเกษตรมากกว่า เนื่องจากเป็นช่องทางที่จีนจะใช้ลงโทษประเทศที่สมาชิกแกนนำของอียู อย่างฝรั่งเศสและสเปน ขณะนี้ จีนกำลังสอบสวนบรั่นดีนำเข้าจากฝรั่งเศส และมีสัญญาณว่าจีนอาจจะเปิดการสอบสวนเนื้อหมูนำเข้าจากอียูที่มีสเปนเป็นผู้ส่งออกหลัก อย่างไรก็ดี จีนเองกำลังหาทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงไม่น่าจะต้องการทำสงครามการค้าในวงกว้างกับอียูหรือประเทศใด มาตรการตอบโต้เท่าที่จีนเคยแสดงออกมา จึงมักเปิดทางให้คลี่คลายความตึงเครียด หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนเรื่องที่คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของอียู จะเพิ่มภาษีสรรพสามิตกับอีวีนำเข้าจากจีนเป็นสูงสุดร้อยละ 38.1 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม นักวิเคราะห์รายนี้ไม่คิดว่า จะเป็นการปิดฉากยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวีของจีนในยุโรป เพราะหลายปีที่ผ่านมา บริษัทจีนใช้เรื่องราคาจูงใจผู้ซื้อ หลังจากนี้ จึงอาจต้องลดกำไรลงหรือผลักภาระไปให้ผู้ซื้อ นอกจากนี้ ยังมีบริษัทจีนหลายแห่งสนใจย้ายฐานการผลิตบางอย่างไปยุโรปด้วย

ในสัปดาห์นี้ อียูประกาศมาตรการต่อสู้กับการอุดหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวีของจีน ด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้าอีวีตั้งแต่ร้อยละ 17.4 ถึง 38.1 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะไม่เท่ากัน เพิ่มเติมจากอัตราภาษีร้อยละ 10 ที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐานเบื้องต้น ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่ถูกเก็บภาษีมากที่สุด จะโดนภาษีสูงเกือบถึงร้อยละ 50 ก่อนหน้านี้ อียูได้จัดทำการสืบสวนการให้เงินอุดหนุนยานยนต์ไฟฟ้าของจีน และพบว่าเกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมขึ้น ยานยนต์ไฟฟ้าของจีนมีราคาต่ำเนื่องจากรัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนสูงมาก จนที่ผ่านมา ยานยนต์ราคาถูกของจีนเข้าไปตีตลาดยุโรป เข้าลักษณะการทุ่มตลาดที่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในยุโรปอย่างหนัก ที่ผ่านมา อียูได้เตือนว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าหลายครั้ง ต่อมา เออร์ซูลา ฟอน เดอไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ยังได้โน้มน้าวกับผู้นำจีนให้ค้าขายในยุโรปอย่างเป็นธรรม

ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวว่า แม้แต่นักการเมืองและบริษัทรถยนต์ในยุโรปเองก็ต่อต้านเรื่องนี้เพราะการกระทำของอียูเข้าข่ายการกีดกันทางการค้า ซึ่งเป็นหนทางที่ไร้อนาคต จึงควรใช้หนทางที่เปิดกว้างและแสวงหาความร่วมมือมากกว่า พร้อมยืนยันว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการต่างๆ ในการรักษาผลประโยชน์ของตน

/////////////////////////