“นายกฯ” รับฟังปัญหาชาวสวนทุเรียน จันทบุรี  พร้อมตัดลูกทุเรียนโชว์ ก่อนชิมทั้ง 3 สายพันธุ์ บอก อร่อยหวานมัน รับปาก ดูแลแหล่งน้ำให้เกษตรกร  หวังผลักดันผลไม้เศรษฐกิจแข่งเวียดนาม สั่งกระทรวงเกษตรฯ คุมอย่าให้มีทุเรียนอ่อนทำเสียชื่อเสียงประเทศ  พบ2 สส.ก้าวไกล มาต้อนรับด้วย

27 เม.ย.67 เวลา 10.40น.นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจติดตามปัญหาภัยแล้งและตรวจเยี่ยมการผลิตทุเรียนสูงและรับฟังปัญหาจากเกษตรกร

จุดแรก นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามการผลิตทุเรียนคุณภาพปลอดภัยมูลค่าสูง และรับฟังปัญหาจากเกษตรกร ที่สวนนวลทองจันทร์ ตำบลมาบไพ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เป็นการรับรายงานเกี่ยวกับผลผลิตของสวนนวลทองจันทร์ ซึ่งจะมีทุเรียนสายพันธุ์นวลทองจันทร์ พวงมณีและก้านยาว จากนายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร รายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ให้ผลผลิตทุเรียน ประมาณ 420,000 ไร่ โดยคาดว่าจะให้ผลผลิตในปีนี้ 700,000 ตัน มากกว่าปีที่แล้ว 6,000 ตัน หรือประมาณ 1% 

โดยนายสุเทพ  นพพรรณ  เจ้าของสวนทุเรียนสวนนวลทองจันทร์ ได้พานายกรัฐมนตรีเดินไปชมต้นทุเรียนที่มีการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่าง พันธุ์พวงมณีกับนวลทองจันทร์ ซึ่งเป็นต้นแรกของโลก โดยจะมีการสาธิตการเก็บทุเรียนและโยนลงมาให้นายกฯและคณะได้ชม ก่อน จะทดลองตัดลูกทุเรียนด้วยตัวเอง

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ชิมทุเรียนพันธุ์นวลทองจันทร์ พันธุ์พวงมณี และพันธุ์ก้านยาว โดยชมว่า อร่อยหวานมัน อร่อยทุกพันธุ์ และบอกให้ผู้สื่อข่าวร่วมชิมทุเรียนด้วยกัน 

นายกฯ กล่าวกับเกษตรกร ว่า ทราบว่าเป็นต้นฤดูของการออกผลผลิตเข้าใจว่าตรงนี้เป็นหัวมังกรของพืชฤดูร้อนทั้งมังคุดและทุเรียนเป็นนิมิตหมายอันดี ที่จะให้ความสำคัญเรื่องการผลิตผลไม้ส่งออก รับฟังปัญหาและข้อเสนอของเกษตรกร ซึ่งได้ฟังการนำเสนอว่าทำรายได้กว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งการส่งออกส่วนใหญ่ไปประเทศจีน ตนมั่นใจว่าคนจีนจะกินทุเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการพัฒนาและปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นและมีมาตรการในการสนับสนุนต่อเนื่อง  

ทั้งนี้คู่แข่งสำคัญคือเวียดนาม จึงเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาทั้งระบบของเราเพื่อแข่งขันกับประเทศเวียดนามให้ได้ รัฐบาลนี้ตระหนักดีถึงความสำคัญของพืชเศรษฐกิจตัวนี้อย่างมากอยู่แล้ว ซึ่ง พันธุ์นวลทองจันทร์สนับสนุนให้เป็นพืชพันธุ์จีไอและสนับสนุนให้แปรรูปในด้านต่างๆและการใช้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงที่จะต้องรักษาทุเรียนให้ได้คุณภาพ

ส่วนเรื่องทุเรียนอ่อนมีการจัดส่งไปขอให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯเข้มงวดดูแลคุณภาพทุเรียนที่ส่งออกด้วยเป็นชื่อเสียงของประเทศเป็นสิ่งสำคัญไม่อยากให้ปลายทางได้รับของไม่มีคุณภาพเป็นการค้าขายระยะยาวอยากจะสร้างชื่อเสียงดีต่อเนื่องต่อไป

ส่วนเรื่องน้ำปีนี้วันนี้มาฟังเอง ได้สั่งการให้สทนช.จัดหาแหล่งน้ำต่อให้เพียงพอต่อการขยายสวนทุเรียนจะมีการแก้ไขปัญหานี้ต่อไป ที่สำคัญต้องมีจุดวันสต็อปเซอร์วิส ตรงชายแดนในการขนส่งออกไปเพื่อไม่ให้ติดอยู่บริเวณชายแดน  แก้ปัญหาผลไม้ค้างอยู่ตรงด่านชายแดน ให้กระทรวงเกษตรฯแก้ปัญหาจุดวันสตอปเซอร์วิสให้ได้และการสนับสนุนการท่องเที่ยวการบริโภคทุเรียนเป็นเรื่องสำคัญพยายามให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสนับสนุนให้มีการจัดรายการโปรโมทให้คนมากินทุเรียน และท่องเที่ยว และต้องดูเรื่องปัญหาที่นักท่องเที่ยวเจอ รวมถึงเรื่องการจราจร ขอสั่งการให้กรมทางหลวงอย่าให้มีการซ่อมถนนสุขุมวิทเกิดขึ้นเลย เพื่อให้การเดินทางขนส่งทุเรียน และการโลจิสติกส์ต่างๆให้สะดวกสบาย เป็นไปได้ด้วยดี 

เรื่องแรงงานขอสั่งการให้กระทรวงแรงงานจัดหาแรงงานให้เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องเกษตรกรทุกคนเรื่องการแปรรูปเป็นสิ่งสำคัญการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มเติมให้สินค้าได้จะถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่มาวันนี้  ทุกสวนถือว่าทำได้แล้ว ตนมาแค่เสริมและเป็นการมาเริ่มที่หัวมังกร

จากนั้นนายก​รัฐมนตรี​ ได้รับชมการสาธิต​ การตัดทุเรียน​  และรับชมสาธิตการรับทุเรียน​ จากที่สูง​/ พร้อมกับสอบถามเกษตรถึงราคาทุเรียน​ ว่าสูงกว่าหมอนทองหรือไม่​  มีการขายแบบไหนบ้าง​   ก่อนที่จะชิมทุเรียนนวลทองจันทร์​ (พวงมณี​ ผสมกับหมอนทอง​)​  ทุเรียนพันธุ์พวงมณี​ และพันธุ์ก้านยาวและรับมอบทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ซึ่งเป็นพันธุ์ยอดนิยมในพื้นที่​ โดยส่วนตัวนายกรัฐมนตรีชอบทุเรียนพันธุ์ก้านยาว โดยเฉพาะเนื้อกรอบนอกนุ่มใน

ทั้งนี้ทุเรียนสายพันธุ์นวลทองจันทร์​ หรือชื่อเดิม​ไข่ทอง เป็นการผสมพันธุ์ระหว่างทุเรียนพันธุ์พวงมณีและหมอนทอง  ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์พิเศษของในพื้นที่​   โดยทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออกมีผลผลิต เพิ่มขึ้นรวม​ 7 แสนตัน  และคาดว่าจะส่งออกได้ปีนี้​ 1 ล้านตันสร้างรายได้ ​1.3- 1.4 แสนล้าน​บาท

โดยก่อนนายกรัฐมนตรี​เดินทางกลับได้พบปะกับประชาชนในพื้นที่ทั้งกลุ่มสตรีตำบลบ้านใหม่​ กลุ่มอสม.​ ที่มารอให้การต้อนรับ​  ถือป้ายให้กำลังใจ​ มีข้อความระบุว่า​ "ชาวตำบลมาบไพร​ ยินดีต้อนรับ​ท่านนายกรัฐมนตรี​และคณะ" นายก​ สู้ๆๆ/ สตรีขลุงเป็นกำลังใจให้นายกฯ​ / เรารักนายกฯ/  ก่อนรับฟังปัญหาจาก​ และรับมอบดอกหลาบ​ ก่อนที่จะมีเกษตรกรรายหนึ่งนำดอกกุหลาบมาให้พร้อมร้องเรียนปัญหาในพื้นที่​ ก่อนที่นายกจะถามหาว่าปลัดกระทรวงอยู่ที่ใด​ เพื่อให้มารับเรื่องจากเกษตรกรรายดังกล่าว

อย่างไรก็ตามพบว่า จุดนี้มี สส.จากพรรคก้าวไกล นางสาวปรัชญาวรรณ ไชยสืบ สส.​เขต​ 2 และนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน​  สส.เขต​ 3