ปลัดกระทรวงอุตฯ แจง กมธ.อุตสาหรรม ขนย้ายกากแคดเมียมกลับ จ.ตาก ใส่ในถุงซ้อน ปิดมิดชิด ใช้รถ 30 คันขน เผยไม่พบกัมมันตภาพรังสีจากตะกอน เตรียมสรุปความเห็นต่อ กก.6 กระทรวง 18 เม.ย.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 เม.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) อุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาเรื่องการขนกากแร่อุตสาหกรรมแคดเมียม โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล อาทิ นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวอุตสาหกรรม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายวรญัฑฐ์ หนูริต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นต้น

ในช่วงหนึ่งของการประชุม นายณัฐพลชี้แจงว่า แผนการเคลื่อนย้ายกากตะกอนกลับที่เดิม โดยแนวทางการจัดเก็บ ณ สถานที่ที่ตรวจพบ ได้เก็บกากตะกอนทั้งหมดไว้ในอาคาร และมีการทำความสะอาดดูดฝุ่นจากในโรงงาน ส่วนที่อยู่ตามชายคาต้องใช้พลาสติกคลุมทับอีกครั้งให้มีความมิดชิดและไม่ถูกชะล้าง โดยเตรียมการขนย้ายใส่ในรถเปิด แต่ใส่ในถุงซ้อนปิดมิดชิด คลุมด้วยพลาสติกอีกครั้ง ขนได้ประมาณ 30 ตันต่อคันรถ และใช้รถ 30 คัน คาดว่าจะเพียงพอ

นายณัฐพลกล่าวว่า วันนี้ (17 เม.ย.) จะทดสอบความแข็งแรงของบ่อว่าพร้อมหรือไม่ ซึ่งตนและผู้บริหารจะลงไปตรวจสอบด้วยตนเอง เมื่อปรับปรุงบ่อเสร็จจะตรวจองค์ประกอบต่างๆ เช่น ตรวจสถานะของกากตะกอนทุกถุงว่าต้องเป็นด่างตามที่อีไอเอกำหนดไว้ ปรับระบบบ่อน้ำเสีย โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอดเวลา ปิดบ่อและดูดฝุ่นทุกวัน รวมถึงตรวจสอบคุณภาพน้ำใต้ดินทุก 3 เดือน

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจงต่อว่า ส่วนวันที่ 18 เม.ย.จะสรุปความเห็นต่อคณะกรรมการ 6 กระทรวง หากมีจุดสุ่มเสี่ยงก็จะดำเนินการให้เหมาะสม และดำเนินการตรวจสอบอย่างเรียบร้อย ขณะที่การสืบหาสาเหตุที่กากตะกอนมาปรากฏที่กรุงเทพฯนั้น คาดว่าในกรุงเทพฯเป็นจุดพักของ พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง และดำเนินการอย่างเต็มที่ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.เสนอให้นำกากตะกอนที่อายัดไว้ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ไว้ก่อน เพราะประชาชนในพื้นที่กังวลเรื่องความปลอดภัย และไม่ควรรอการดำเนินการของภาคเอกชนเพียงอย่างเดียว แต่กระทรวงควรของบประมาณดำเนินการจากนายกฯมาก่อนได้ แล้วไปฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายจากผู้ประกอบการแทน
ทำให้ปลัดกระทรวงอุตฯชี้แจงว่า เหตุที่ไม่ใส่ในตู้คอนเทนเนอร์เพราะจะมีความยุ่งยากเรื่องการขนย้ายเข้า ออก ย้ำว่ากากตะกอนไม่มีกัมมันตภาพรังสี หากไม่มีการฟุ้งกระจายก็สามารถควบคุมได้ แต่ให้เร่งทำถุงซ้อน 2 ชั้นเพื่อปกคลุมไม่ให้มีการฟุ้งกระจายไปก่อน ซึ่งมาตรการนี้เป็นไปตามมาตรฐานของสหประชาชาติ

ขณะที่นายอัครเดชได้ตั้งคำถามว่า ทำไมต้องขนย้ายในวันที่ 7 พ.ค. โดยไม่ใช่วันที่ 17 เม.ย. ตามที่ รมว.อุตสาหกรรมเคยแถลงไว้

อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ชี้แจงว่า กระบวนการในการขนย้ายกากตะกอนกลับต้องมีการอนุญาตและเตรียมดำเนินการ ซึ่งต้องเผื่อระยะเวลาในการตรวจสอบและซ่อมแซมบ่อสำหรับฝังกลบใน จ.ตาก ให้เรียบร้อยก่อน และต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงขออนุญาตหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย

อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานฯกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะใช้เวลา 1 สัปดาห์ เผื่อขนย้ายกากตะกอนที่อยู่ใน จ.ตาก แล้วลงบ่อ จากนั้นเป็นการขนย้ายกากตะกอนจากพื้นที่ต่างๆ โดยเรียงตามลำดับความสำคัญและความพร้อมในการขนส่ง กระบวนการนี้เป็นร่างที่กระทรวงเห็นว่ามีความเหมาะสม โดยจะเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อรับฟังความเห็นอีกครั้ง

/////////////////////////////////////