คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี จัดประชุมเรื่องอิหร่านโจมตีอิสราเอล เลขาธิการยูเอ็น ขอให้ใช้ความยับยั้งขั้นสูงสุด ด้านสหรัฐฯ ย้ำจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมตอบโต้อิหร่านของอิสราเอล หลังคณะรัฐมนตรีในภาวะสงครามของอิสราเอลต้องการใช้มาตรการแก้แค้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 เมษายน กรณีอิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ ระดมทั้งโดรนติดอาวุธ ขีปนาวุธร่อน และ ขีปนาวุธนำวิถี รวมทั้งจรวดมากกว่า 350 ลูกยิงมาจากอิหร่านโดยตรง และจากพื้นที่ควบคุมของกองกำลังพันธมิตรในอิรัก เยเมนและเลบานอน เมื่อช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ (14 เมษายน)ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตอบโต้เหตุโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในซีเรียที่ต้องสงสัยเป็นฝีมือของอิสราเอล ทำให้อิสราเอลที่ได้พันธมิตรช่วยยิงสกัดการโจมตีของอิหร่านได้มากถึงร้อยละ 99 กำลังประเมินสถานการณ์เพื่อหาทางตอบโต้

เพื่อเป็นการร่วมหาทางออกจากวิกฤตระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซีนัดประชุมเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ มีอันโตนีโอ กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็นร่วมประชุมด้วย โดยกูแตร์เรสเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งขั้นสูงสุด พร้อมย้ำเตือนว่า การตอบโต้โดยใช้กำลังทหาร ขัดต่อหลักกฎหมายสากล ภูมิภาคตะวันออกกลางกำลังอยู่ในสถานการณ์หมิ่นเหม่ ประชาชนในภูมิภาคนี้กำลังเผชิญกับอันตรายของความขัดแย้งที่ขยายตัวเต็มรูปแบบ ขณะนี้เป็นเวลาที่ต้องปลดชนวนและลดความตึงเครียดป้องกัน ไม่ให้ความขัดแย้งลุกลาม

ส่วนผู้แทนของรัสเซียและจีน แถลงต่อที่ประชุมยูเอ็นเอสซี เรียกร้องให้ใช้ความยับยั้งชั่งใจ เนื่องจากอิหร่านออกมาแสดงถึงความตั้งใจแล้วว่า ต้องการหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งขยายวงและพิจารณาเห็นว่าปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลดังกล่าวดำเนินการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าทำเนียบขาวเตือนอิสราเอลว่า สหรัฐฯจะไม่เข้าร่วมในทุกการโจมตีที่เป็นการแก้แค้นอิหร่าน โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้อิสราเอลพิจารณามาตรการตอบโต้อิหร่านอย่างรอบคอบ หลังคณะรัฐมนตรีสงครามของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ที่มีรัฐมนตรี 5 คน เห็นชอบให้ตอบโต้อิหร่าน ระหว่างการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ แต่ยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องเวลาและขนาดของการตอบโต้ อย่างไรก็ตาม การโจมตีของอิหร่านสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย เนื่องจากขีปนาวุธและโดรนติดตั้งระเบิดกว่า 300 ลูก ถูกยิงตกเกือบทั้งหมดด้วยระบบป้องกันของอิสราเอลและความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส และจอร์แดน

ก่อนหน้านี้ พลตรีโมฮัมหมัด บาเกรี ผู้บัญชาการกองทัพบกอิหร่าน เตือนอิสราเอลว่าจะเผชิญการโจมตีที่หนักหน่วงกว่าเหตุโจมตีที่เพิ่งเกิดขึ้น หากอิสราเอลโจมตีแก้แค้นอิหร่าน และถ้าสหรัฐฯสนับสนุนอิสราเอลโจมตีอิหร่าน ฐานทัพของสหรัฐฯในภูมิภาค จะตกเป็นเป้าหมายถูกโจมตีด้วย

ด้านฮอสเซน อามีร์อับดอลเลาะเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน เปิดเผยระหว่างแถลงข่าวหลังประชุมกับทูตนานาชาติในกรุงเตหะรานว่า อิหร่านแจ้งกับทั้งสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านล่วงหน้า 72 ชั่วโมงก่อนลงมือโจมตีตอบโต้อิสราเอลด้วยฝูงบินโดรนโจมตีและขีปนาวุธ และยืนยันว่าอิหร่านไม่เห็นด้วยกับการทำให้ปัญหาขัดแย้งในภูมิภาคบานปลาย