เปิดคำรับสารภาพ พ่อโหด ลวงฆ่าลูกสาว วัย 10 ขวบ เลือดเย็น เตรียมการ 3 วัน พาไปหาความสุขครั้งสุดท้าย ก่อนพาเข้ารีสอร์ต ลงมือเหี้ยม เผย อยากไปขอโทษลูก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 เม.ย.2567 ที่สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ และ พ.ต.ท.พรวน คร้ามสมร รอง ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน รับผิดชอบคดี เข้าดำเนินการสืบสวนสอบสวน นายสิทธานันท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่น จากกรณีเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุพบศพ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี เสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ภายในห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ ผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายสิทธานันท์ พ่อของผู้ตาย

เปิดคำรับสารภาพ พ่อโหด ลวงฆ่าลูกสาว วัย 10 ขวบ เลือดเย็น เตรียมการ 3 วัน พาไปหาความสุขครั้งสุดท้าย ก่อนพาเข้ารีสอร์ต ลงมือเหี้ยม จากการสอบสวนทราบว่า วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสิทธานันท์มาเปิดห้องพักที่เกิดเหตุ พร้อมกับ ด.ญ.เอ ลูกสาว ต่อมาวันที่ 9 เม.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. นายสิทธานันท์ได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแกนด์ฟีลาโน่ ทะเบียน 1กจ2856 อุตรดิตถ์ ออกจากรีสอร์ตไปคนเดียว

จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. หมดเวลาเข้าพัก แม่บ้านของโรงแรมจึงได้ไปเรียกเพื่อให้เช็กเอาต์ แต่ห้องล็อกไม่มีคนตอบรับ จึงได้แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและพบศพด.ญ.เอนอนเสียชีวิตบนเตียงนอน โดยมีผ้าห่มคลุมร่างไว้ จากการตรวจสอบที่ข้อมือด้านซ้ายมีร่องรอยถูกของมีคมเฉือด เลือดไหลนอง และพบมีดปลายแหลมทำครัวตกอยู่ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 6-10 ชั่วโมง

จากนั้น ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเรียกบุคคลที่ใกล้ชิดเข้าให้รายละเอียด พร้อมทั้งจัดกำลังปูพรหมตามจับกุมนายสิทธานันท์ กระทั่งเวลา 18.30 น.ของวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบนายสิทธานันท์ขับรถจักรยายนต์บนเส้นทางท่าปลา-เขื่อนดิน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ห่างจาก อ.เมืองอุตรดิตถ์ ประมาณ 40 กิโลเมตร จึงได้จัดกำลังเข้าจับกุม ซึ่งนายสิทธานันท์อยู่ในสภาพอิดโรย ยินยอมให้ควบคุมตัว

พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ กล่าวว่า หลังควบคุมตัว นายสิทธานันท์ มาจาก สภ.ท่าปลา ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา นำตัวขังเดี่ยวไว้ที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ สั่งการให้ตำรวจสายตรวจจัดเวรยาม โดยเน้นว่าห้ามนอนหลับโดยเด็ดขาด เพื่อเฝ้าระวังมิให้ผู้ต้องหาฆ่าตัวตายในห้องขังหนีความผิด

ก่อนจะนำตัวสอบสวนอย่างละเอียด พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.อุตรดิตถ์ นำหลักฐานต่าง ๆ ที่รวบรวมที่เกิดเหตุ ให้ผู้ต้องหาได้ใช้ประกอบคำรับสารภาพ แทนการนำตัวทำแผน ณ จุดก่อเหตุ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ประกอบกับผู้ต้องหาไม่ประสงค์จะทำแผน พร้อมรับสารภาพเป็นผู้ลงมือฆ่าลูกสาวของตัวเองจริง

พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ กล่าวว่า มูลเหตุของการก่อเหตุฆ่าลูกสาวตัวเองของผู้ต้องหาครั้งนี้ เกิดจากปัญหาหนี้สิน ประกอบกับต้องการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว อีกทั้งยังถูกกดดันจากหลาย ฝ่าย ด้วยความเครียดหนัก จึงวางแผนฆ่าลูกสาวตัวเองพร้อมจะฆ่าตัวเองตามไปด้วย แต่เกิดความกลัวจึงไม่ฆ่าตัวเอง และหลบหนี

ได้ทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ข้างถนน แล้วขับรถจักรยานยนต์ไปวนเวียนพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ไม่ได้หนีออกนอกต่างจังหวัด ซึ่งเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ว่า จะมีเป้าหมายไปที่ไหน จนนำไปสู่การจับตัวได้ในที่สุด  นอกจากนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาไปร่วมงานฌาปนกิจศพของลูกสาว ซึ่งจะมีขึ้นช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ส่วนการส่งฟ้องจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะต้องทำการสอบสวนให้ละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น ส่วนจะมีข้อหาอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.ไกรสิทธิ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบเอกสารหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า นายสิทธานันท์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มีเพียงได้รับการบอกกล่าวจากพ่อและแม่ของผู้ต้องหาเท่านั้นว่า ซึ่งปกติแล้วผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าจะไม่ทำร้ายคนอื่น จะทำร้ายตัวเองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่สอบสวนทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากมีผลต่อรูปคดีอย่างมากเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงจังหวะที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายสิทธานันท์ออกจากห้องขัง สภ.เมืองอุตรดิตถ์ มายังห้องประชุม เพื่อดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด ก่อนที่ ตำรวจจำนำหมวกกันน็อกสวมปกปิดใบหน้า พบว่าสีหน้าของนายสิทธานันท์นิ่งเฉย เมื่อตำรวจเรียกชื่อ ได้แต่พยักหน้า

แม้สื่อมวลชนจะพยายามสอบถามถึงแรงจูงใจ ตอบเพียงสั้นว่า “เสียใจ อยากจบปัญหาชีวิตเครียดเรื่องหนี้สิน จะลงมือฆ่าลูกแล้วฆ่าตัวเองตายตาม แต่เมื่อด้วยใช้แขนรัดคอ แล้วนำมีดที่เตรียมมากรีดข้อมือลูกสาว พอจะฆ่าตัวเองใจไม่กล้า เกิดความกลัว จึงหลบหนี ขับรถจักรยานยนต์ไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดหมาย เจอจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ก็วกรถกลับ วนเวียนตามถนนเขต อ.เมือง และ อ.ท่าปลา จนถูกจับได้ในที่สุด”

นายสิทธานันท์ กล่าวยอมรับว่า คิดและเตรียมการไว้ 2-3 วัน จัดหามีด จากนั้นพาลูกสาวซ้อนรถจักรยานยนต์ออกมาหาความสุขครั้งสุดท้าย ด้วยการทานของอร่อย ดูหนัง และเข้าพักรีสอร์ต อยากไปขอโทษลูกสาวที่งานศพ

///////////////////////