จบลงเร็วเกินคาด สำหรับสนุกเกอร์อาชีพโลกรายการเวิลด์โอเพ่น 2024 รอบชิงชนะเลิศ ณ ยูฉานสปอร์ตเซ็นเตอร์ เมืองยูฉาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. 67

หลังจาก "เพชฌฆาตปืนกล" จัดด์ ทรัมป์ มือ 2 ของโลกจากอังกฤษ ระเบิดฟอร์มฮอตกด "มังกรผงาด" ติง จุ้น ฮุย มือ 9 ของโลกจากจีนไปอย่างขาดลอย 10-4 เฟรม ท่ามกลางแฟนสนุกเกอร์แดนมังกร ที่เข้ามาชมในฮอลล์แข่งขันกันอย่างเนืองแน่น ต้องผิดหวังไปตามๆกัน

จากการที่รายการนี้ห่างหายไปจากสาระบบคิวโลกนานถึง 5 ปีเต็ม เนื่องด้วยผลกระทบจากโควิด-19 โดยหนสุดท้ายต้องย้อนกลับในศึกเวิลด์โอเพ่น 2019 โน่นเลย หากยังจำกันได้ ครั้งนั้น จัดด์ ทรัมป์ สามารถคว้าแชมป์มาครอง หลังรอบชิงชนะเลิศ เอาชนะ "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู ของไทยเราไปได้ 10-5 เฟรม ก็เท่ากับว่า การคว้าแชมป์เวิลด์โอเพ่น 2024 ของ จัดด์ ทรัมป์ ในครั้งนี้ คือการป้องกันแชมป์ได้สำเร็จนั่นเอง แม้มันจะนานห่างกันถึง 5 ปีก็ตาม

ความสำเร็จในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นแชมป์เวิลด์โอเพ่นสมัยที่ 2 ของ จัดด์ ทรัมป์ แล้ว ยังทำให้เจ้าตัวฟันเงินรางวัล 170,000 ปอนด์(ราว 7.7 ล้านบาท)แล้ว ยังเป็นถ้วยแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งใบที่ 28 อีกด้วย

ส่งผลให้จอมคิวถนัดซ้ายวัย 34 ปีผู้นี้ คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ร่วมกับ "เทพบุตรคิวทอง" สตีฟ เดวิส ตำนานคิวชาวอังกฤษ ที่คว้าแชมป์แรงค์กิ้งทัวร์นาเมนต์ไป 28 ถ้วยเช่นกัน โดยเป็นรองเพียงอันดับ 1 รอนนี่ โอซัลลิแวน(41 รายการ), อันดับ 2 สตีเฟ่น เฮนดรี้(36 รายการ) และอันดับ 3 จอห์น ฮิกกินส์(31 รายการ)เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังเป็นแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้งรายการที่ 5 ในฤดูกาลปัจจุบันของเจ้าตัวอีกด้วย ต่อจาก อิงลิชโอเพ่น 2023, อู่ฮั่นโอเพ่น 2023, นอร์เทิร์นไอร์แลนด์โอเพ่น 2023 และเยอรมันมาสเตอร์ส 2024

ทำให้ จัดด์ ทรัมป์ มีโอกาสทำลายสถิติของตัวเอง กับการคว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งเยอะที่สุดในฤดูกาลเดียว หากคว้าแชมป์อีก 2 ทัวร์นาเมนต์ที่เหลือของซีซั่น 2023-2024 อย่างทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2024 และชิงแชมป์โลก 2024 ได้สำเร็จ