ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ปราศรัยต่อฝูงชนหลังชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น พร้อมยกย่องการได้ดินแดนกลับคืนมาจากยูเครน ขณะที่ชาติตะวันตกก่นด่า, ด้อยค่า และดูหมิ่นการเลือกตั้งบนดินแดนยูเครน

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้รับชัยชนะท่วมท้นจากการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชนตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทั้งในดินแดนของรัสเซีย และดินแดนที่ผนวกมาจากยูเครน

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ปูตินกลายเป็นผู้นำรัสเซียที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในรอบกว่าสองศตวรรษ นับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดทางการเมืองในปี 2543

ล่าสุด เขาปรากฎตัวในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีการผนวกคาบสมุทรไครเมียของรัสเซีย และได้กล่าวปราศัยบนเวทีต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากที่มาร่วมงานบริเวณจัตุรัสแดง ในกรุงมอสโก

"จงจับมือกันไว้ให้มั่น และก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ต่อจากนี้เราจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม... รัสเซียจงเจริญ!" ปูตินกล่าวกับฝูงชน

ปูตินมาร่วมงานดังกล่าวพร้อมผู้สมัครแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 3 คน ซึ่งทุกคนต่างแสดงความยินดีกับชัยชนะที่เขาได้รับ

ปูตินใช้โอกาสนี้อวดอ้างถึงผลงานการผนวกดินแดนที่ยึดมาได้จากยูเครน รวมทั้งโครงการของรัฐบาลที่จะสร้างเส้นทางรถไฟใหม่เชื่อมต่อพื้นที่เดิมของยูเครนเข้ากับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย และกล่าวว่าผู้คนในภูมิภาคเหล่านั้นต่างปรารถนาที่จะกลับสู่ดินแดนมาตุภูมิเสมอมา

อย่างไรก็ตาม การลงคะแนนเสียงตลอด 3 วันที่ผ่านมาก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้นไม่น้อยจากประชาชนบางส่วนที่ออกมาก่อหวอดนอกหน่วยเลือกตั้ง, การจงใจทำบัตรเลือกตั้งให้เป็นบัตรเสีย และการระดมโจมตีตามแนวชายแดนของกลุ่มก่อวินาศกรรมที่สนับสนุนยูเครน

ในการตอบสนองต่อการครองอำนาจอีก 6 ปีของปูติน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้ใช้ประเด็นดังกล่าวในการกดดันรัฐสภาสหรัฐฯ ให้อนุมัติแพ็คเกจความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์โดยเร็ว

"เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับยูเครนที่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากสภาคองเกรสของสหรัฐ และเราหวังว่ากระบวนการที่จำเป็นทั้งหมดจะเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจและกองทัพของเรา" เซเลนสกีกล่าวในแถลงการณ์

ความคิดเห็นของเขาเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพยูเครนเพิ่มการโจมตีดินแดนรัสเซียในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยการยิงกระสุนปืนใหญ่ของยูเครนคร่าชีวิตผู้คนไป 4 รายใกล้เมืองเบลโกรอดบริเวณชายแดนของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในภูมิภาคนี้นับตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เพิ่มเป็น 15 รายแล้ว

ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า หลังได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ปูตินได้ต่อสายหาผู้นำเบลารุสและอาเซอร์ไบจาน ซึ่งเป็นอดีตพันธมิตรโซเวียตในเอเชียกลาง รวมทั้งพูดคุยกับผู้นำตุรเคียซึ่งแสดงความยินดีกับเขาและเสนอที่จะเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างคู่ขัดแย้งในสงคราม

นอกจากนี้ ปูตินยังได้รับการแสดงความยินดีจากผู้นำประเทศต่างๆ เช่น จีน, เกาหลีเหนือ, เวเนซุเอลา และเมียนมา

แต่ในทางตรงกันข้าม เขาก็ได้รับการประณามหยามเหยียดจากบรรดาผู้นำชาติตะวันตก เช่น สหภาพยุโรป, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ที่กล่าวหาว่าการเลือกตั้งรัสเซียครั้งนี้มีพื้นฐานมาจากการปราบปรามและการข่มขู่บนพื้นฐานอยุติธรรม อีกทั้งยังแปดเปื้อนจากแนวทางกำจัดคู่ต่อสู้ทางการเมืองและการควบคุมสื่อ ซึ่งทำให้ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

///////////////////////