เมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 ที่ห้องประชุมบริษัท ไทยลีก จำกัด นายปวิณ ภิรมย์ภักดี อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนที่ 1 เป็นประธานในการประชุมหารือกับสโมสรจากฟุตบอลลีกอาชีพรายการ “รีโว่ ไทยลีก 2023/24”

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าที่ประชุมมีการหารือกันหลายด้านโดยเฉพาะเรื่องของโควตานักเตะต่างชาติ ที่จะมีการปรับเปลี่ยนในฤดูกาลถัดไป รวมถึงการแก้ไขปัญหาผู้ตัดสิน และการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้นมาคือฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน เป็นต้น

ภายหลังการประชุม นายปวิณ เปิดเผยว่า การประชุมเป็นการประชุมครั้งแรก เหมือนเป็นการรีสตาร์ตการทำงานใหม่ทั้งหมด ซึ่งด้วยความที่เป็นการประชุมครั้งแรกจึงทำให้ยังไม่มีข้อสรุปอะไรที่ออกมาเป็นรูปธรรม เพียงแต่ต้องมาพูดคุยในหลายๆ เรื่องแล้วเป็นการตัดสินใจร่วมกันเท่านั้น

นายปวิณ กล่าวว่า ประเด็นที่หารือกันอาทิเช่นโควตาต่างชาติสำหรับฟุตบอลไทยลีก 1 ก็ยังพูดคุยกันในวงกว้างมากๆ ต้องรับฟังเสียงของสโมสรเป็นหลักแล้วก็ดูภาพรวมของลีกด้วย เรื่องนี้ไม่ใช่ทำเพื่อสโมสรใดสโมสรหนึ่ง แต่ต้องดูเรื่องของมูลค่าทางการตลาดอีกด้วย ซึ่งยังพอมีเวลาอีกราวๆ 2 เดือนที่จะคุยกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปก่อนจบฤดูกาลนี้

จากกระแสข่าวที่จะมีการตั้งบริษัทไทยลีก ขึ้นมาใหม่ รวมถึงการจะดึงสโมสรไทยลีก 1 จำนวน 16 ทีม และไทยลีก 2 จำนวน 18 ทีม ที่ปัจจุบันแยกตัวออกมาหาสิทธิประโยชน์การถ่ายทอดสดกันเองกลับมาสู่ระบบของสมาคมฯ หรือไม่นั้น นายปวิณ กล่าวว่า เรื่องการตั้งบริษัทใหม่เป็นสิทธิของสมาคมฯ ว่าจะให้บริษัทไหนเป็นผู้ดูแล จะต้องมีการพูดคุยกันในระดับสภากรรมการอีกครั้ง ส่วนจะตั้งบริษัทใหม่หรือจะดึงไทยลีก1-2 กลับเข้ามาสู่บริษัทไทยลีกแล้วหาสิทธิประโยชน์ร่วมกันหรือไม่นั้น ก็ต้องพูดคุยกันอีกที

นอกจากนี้ นายปวิณ ยังตอบคำถามเรื่องของการปรับโปรแกรมไทยลีกในช่วงเดือนเมษายนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทีมฟุตบอลชุด ช้างศึก U-23 ที่จะไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย เพื่อคัดตัวแทนโอลิมปิกเกมส์ ว่า ในเวลานี้คงไม่สามารถมีการปรับโปรแกรมได้ คงต้องมองไปถึงอนาคตตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป ว่าจะวางโปรแกรมการแข่งขันแบบไหน ให้ความสำคัญกับทัวร์นาเมนต์ใดบ้าง ส่วนทีมชุดยู-23 ที่จะขอตัวผู้เล่นไป คงต้องใช้วิธีการคุยกับสโมสรเพื่อให้ได้นักเตะมามากที่สุด แต่จะไม่มีการเลื่อนโปรแกรมไทยลีกแต่อย่างใด