เดือนรอมฎอนจะเริ่มต้นในวันจันทร์ ตามการประกาศของซาอุดีอาระเบีย, กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเดือนถือศีลอดอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมจะเกิดขึ้นท่ามกลางสงครามทำลายล้างในฉนวนกาซา

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2567 กล่าวว่า ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของศาสนาอิสลาม กล่าวผ่านสำนักข่าว SPA อย่างเป็นทางการว่า ศาลสูงได้ประกาศให้ "วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม" เป็นจุดเริ่มต้นของเดือนรอมฎอนอันประเสริฐสำหรับปีนี้ เช่นเดียวกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และรัฐกาตาร์ที่ได้ประกาศวันเริ่มต้นของเดือนรอมฎอนผ่านสำนักข่าวอย่างเป็นทางการของตน หลังจากการพบเห็นพระจันทร์เสี้ยว

ในซาอุดีอาระเบีย การเริ่มต้นเดือนศักดิ์สิทธิ์ยังมีความไม่แน่นอน หลังจากหอสังเกตการณ์บางแห่งของราชอาณาจักรรายงานว่าดวงจันทร์ถูกบดบังด้วยสภาพอากาศที่มีเมฆมากและอนุภาคฝุ่น แต่หอดูดาวดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอัล มัจมาห์ ในกรุงริยาด ได้ยืนยันในท้ายที่สุดว่าพบเห็นพระจันทร์เสี้ยวแล้ว ทั้งนี้ เดือนรอมฎอนแห่งการถือศีลอดตอนกลางวันถือเป็นหนึ่งในห้าเสาหลักของศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิมจะงดเว้นการกินและดื่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และตามธรรมเนียมแล้วจะรวมตัวกับครอบครัวและเพื่อนฝูงเพื่อละศีลอดในตอนเย็น นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการละหมาด โดยเหล่าผู้ศรัทธาจะมารวมตัวกันที่มัสยิดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตาม สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสในฉนวนกาซาส่งผลกระทบยาวนานต่อการเฉลิมฉลองต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ที่เฝ้ารอด้วยความหวังว่าจะเกิดการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ก่อนเริ่มเดือนรอมฎอน และสุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้น

สงครามดังกล่าวเกิดขึ้นจากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมทางตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,160 ราย ขณะที่การโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลในฉนวนกาซาซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายกลุ่มฮามาส ได้สังหารชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 31,045 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก องค์การสหประชาชาติเตือนว่าภาวะอดอยากในดินแดนปาเลสไตน์นั้นหนักหนาขึ้นทุกวัน เว้นเสียแต่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในระดับที่ต่ำกว่าปกติอย่างมาก กว่าช่วงก่อนสงคราม

//////////////////