ตาวัย 70 สุดช้ำผูกแขนสาว 19 ปีได้เดือนเดียวอยู่ด้วยกันได้แค่ 5 คืน ถูกแฟนสาวปันใจให้ชายอื่นทำเอาลมจับ ด้านสาวลั่นขอแยกทางเพราะโดนดูถูก

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 07 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนายชูชาติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี อยู่หมู่ 5 ตำบลประดู่ยืน อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานีว่า ตนเองถูกนางสาวแพรพานทอง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปีที่อยู่บ้านใหม่คลองเคียน อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี หลอกทั้งเงินหลอกทั้งใจจนหมดตัว สุดท้ายหนีไปอยู่กับแฟนใหม่ ไม่กลับมา โดยช่วงปลายเดือนวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ตนและนางสาวแพรพานทอง ได้ทำพิธีสู่ขอผูกแขนกับพ่อแม่ของตัวสาวด้วยสินสอดเงินสด 20,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท จากนั้นตนได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของภรรยาหรือตัวเจ้าสาวที่บ้านใหม่คลองเคียน อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

ระหว่างที่อยู่ด้วยกันฝ่ายภรรยาได้ขอให้ตนลงทุนเลี้ยงหมูจำนวน 50 ตัว เลี้ยงไก่จำนวน 500 ตัว พร้อมกับก่อนหน้านี้ได้ซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 13 ในราคา 20,000 บาทให้กับตัวภรรยาสาวด้วย และตนก็ได้อยู่กินกับภรรยาสาวรวมแล้วประมาณ 5 วันเท่านั้นหลังจากได้ทำพิธีผูกแขนแต่งงาน มาช่วงหลังภรรยาสาวก็เริ่มเปลี่ยนไป โดยแอบหนีไปเที่ยว ไม่กลับบ้าน กลับมาอีกทีก็ตอนเช้า ทำพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด ตนต้องโทรตามอยู่บ่อยครั้ง แต่ตัวภรรยาสาวได้ตอบกลับมาว่าอยู่กับแฟนใหม่ มีแฟนใหม่แล้ว ทำเอาตนน้ำตาตกใน มานั่งคิดว่าหากเป็นคู่ชีวิตกันแล้วก็กลับบ้านมาช่วยกันทำมาหากิน ตนเองก็เป็นโรคเก๊า หวังจะฝากผีฝากไข้กันยามที่ตนเริ่มแก่ชรามากกว่านี้ แต่ก็ถูกตัวภรรยาสาวมาทำอย่างนี้

กระทั่งตนเองก็เริ่มคิดว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน เนื่องจากผูกแขนกันได้เดือนเดียวก็ถูกสาวหรือภรรยาปั่นใจให้ชายอื่นแล้ว ที่ผ่านมาตนเสียเงินให้กับภรรยาสาวกว่า 2 แสนบาท รวมค่าผูกแขน 20,000 บาท ทองคำ 1 บาท ค่าซื้อหมูมาเลี้ยง 50 ตัวเป็น 50,000 บาท ค่าซื้อไก่มาเลี้ยง 500 ตัวกว่า 5,000 บาท ค่ามือถือไอโฟนราคา 20,000 บาท ไหนจะค่าอาหารสัตว์และเงินที่สาวหลอกขอไปแต่ละครั้งรวมอีกหลายบาท

จนเมื่อวันที่ 23 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ตนเริ่มอดทนไม่ไหวได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองการุ้งว่าถูกตัวสาวหรือภรรยานำรถ จยย.ไปใช้แล้วไม่นำมาคืน โดย จยย.นั้นเป็นชื่อของตน เนื่องจากพฤติกรรมของตัวสาวเองไม่เคยคิดรักและห่วงตนเลย จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หากตัวสาวนำรถ จยย.ไปทำผิดต่อกฏหมายทางตนก็จะไม่มีส่วนรับรู้เห็นแต่อย่างใด จากนั้นตนก็ได้เดินทางกลับมาที่บ้าน อ.ลานสัก หลังลงบันทึกที่ สภ.เมืองการุ้ง ไม่กี่วัน ทางตัวสาวก็นำรถ จยย.มาคืนให้ จึงอยากฝากตัวสาวว่าอย่าไปหาทำอย่างนี้กับใครอีก มันบาป ขอให้ทำกับตนแค่คนเดียวพอ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนางสาวแพรพานทอง อายุ 19 ปี ที่บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้เปิดเผยว่า ตนกับและอดีตสามีได้ผูกข้อไม้ข้อมือจริงเมื่อวัน 29 ม.ค.67 เนื่องจากที่ผ่านมาตนทนอยู่กับเขาไม่ได้ โดนเขาดูถูกมาตลอด หาว่าตนเป็นคนอย่างว่า หากวันไหนตนจะออกไปทำธุระก็ไปไม่ได้ ตนจึงอยากขอแยกทางกับเขา เนื่องจากไม่เป็นอิสระเหมือนถูกกดดัน ส่วนเรื่องเงินและมือถือที่เขาให้เขาก็ให้ด้วยเสน่ห์หา ตนไม่เคยไปบังคับแต่อย่างใด หากเลิกลากันแล้ว ตนก็ขอใช้ในสิ่งที่ควรเป็นของตน เนื่องจากตนก็เสียให้เขาไปแล้วเช่นกัน ส่วนเรื่องหมู 50 ตัวกับไก่ 500 ตัว ตนให้เขามาเอาไปได้เลย ตนยอมเพื่อให้ทุกอย่างมันจบ เนื่องจากตอนนี้ตนก็มีแฟนใหม่แล้วที่จะเริ่มต้นอยู่ด้วยกัน

//////////////////////