หลังจากที่ สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย มีมติให้หยุดทำหน้าที่ของผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดเก่าที่มี โค้ชกมล ตันกิมหงษ์ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน สืบเนื่องจากประเด็นดราม่าเรื่องการขอเงินแบ่งอัดฉีด 10.1 ล้านบาทของนักกีฬาตะกร้อ 30-50% จากเงินอัดฉีดที่นักกีฬาแต่ละคนได้รับจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งได้จากผลงานการคว้าเหรียญทอง ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศเรื่อง การรับสมัครผู้ฝึกสอน และผู้เชี่ยวชาญกีฬาตะกร้อ ประจำปี 2567 เพื่อให้ผู้ฝึกสอน และผู้เชี่ยวชาญกีฬาตะกร้อของสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย มีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยกำหนด อีกทั้งเพื่อพัฒนานักกีฬาทีมชาติไทย
สู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ ในการแข่งขันระดับชาติ และนานาชาติ

สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ฝึกสอน และผู้เชี่ยวชาญกีฬาตะกร้อ ประจำปี 2567 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

คุณสมบัติของผู้ฝึกสอนกีฬาตะกร้อ
1.เป็นผู้มีคุณธรรม และจริยธรรม ที่ไม่ประพฤติให้ตนเองเกิดความเสื่อมเสีย
2.เป็นผู้ฝึกสอนที่มีผลงานได้รางวัลในการแข่งขันระดับนานาชาติ หรือได้อันดับ 1 ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ หรือชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป
3.ผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนระดับกลาง หรือผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนระดับนานาชาติที่ กกท. หรือสมาคมกีฬาให้การรับรองในชนิดกีฬาที่เป็นผู้ฝึกสอนกีฬาตะกร้อ
4.วุฒิการศึกษาไม่ต่ำว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า/อนุปริญญาหรือเทียบเท่าทางด้านพลศึกษา หรือทางการกีฬา หรือเคยเป็นนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย เคยเป็นผู้ฝึกสอน และ/หรือเคยเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติในชนิดกีพาตะกร้อ
5.มีสมรรถภาพทางกายดี สามารถปฏิบัติงานได้
6.เป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี และไม่เกิน 60 ปี เมื่อได้ปฏิบัติงานแล้วอายุเกิน 60 ปี แต่ยังมีความสามารถปฏิบัติงานได้ดี คณะกรรมการพิจารณาให้ปฏิบัติงานต่อได้

คุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญกีฬาตะกร้อ
1.มีผลงานในการแข่งขันระดับนานาชาติ ดังนี้ ระดับโลก หรือระดับกีฬาโอลิมปิกเกมส์ อันดับ 1-8 (กีฬาสากล), อันดับ 1-4 (กีฬาทั่วไป) หรือระดับเอเชีย อันดับ 1-4 (กีฬาสากล) และอันดับ 1-2 (กีฬาทั่วไป)
2.ผ่านการอบรมจากสหพันธ์กีฬาตะกร้อนานาชาติ อย่างน้อยใน ระดับ 1 หรือผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนชั้นสูงที่ กกท. หรือสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยให้การรับรองในชนิดกีฬาที่เป็นผู้ฝึกสอน
3.มีประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอน จนนักกีฬาประสบความสำเร็จระดับนานาชาติ ไม่น้อยกว่า 3 ปี
4.วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า/อนุปริญญา หรือเทียบเท่าทาง ด้านพลศึกษา หรือทางการกีฬา หรือเคยเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย เคยเป็นผู้ฝึกสอน และ/หรือเคยเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติในชนิดกีฬาตะกร้อ
5.มีความรู้ ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ (อ่าน เขียน สนทนา) ระดับพอใช้
6.มีสมรรถภาพทางกายดี สามารถปฏิบัติงานได้
7.เป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี และไม่เกิน 65 ปี เมื่อได้ปฏิบัติงานแล้ว อายุเกิน 65 ปี แต่ยังมีความสามารถปฏิบัติงานได้ดี คณะกรรมการพิจารณาให้ปฏิบัติงานต่อได้
8.มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการการกีฬา จิตวิทยาการกีฬา สรีรวิทยาการกีฬาเทคโนโลยีทางการกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา สมรรถภาพทางกาย สามารถบริหารจัดการด้านการฝึกกีฬาตะกร้อ และนำไปใช้กับการฝึก และการแข่งขันกีฬาตะกร้อ

ทั้งนี้ จะมีสัมภาษณ์ตามแบบสัมภาษณ์ที่คณะกรรมการพิจารณาโครงสร้างผู้ฝึกสอนและผู้เชี่ยวชาญ กีฬาตะกร้อ ประจำปี 2567 กำหนดคือ
1.ความรู้ด้านกติกากีฬาตะกร้อ
2.ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อนำไปใช้พัฒนานักกีฬา เช่น วิทยาศาสตร์การกีฬา โภชนาการการกีฬา จิตวิทยาการกีฬา สรีรวิทยาการกีฬา เทโนโลยีทางการกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา สมรรถภาพทางกาย
3.ความรู้ และเทคนิคการฝึกข้อม และการแข่งขันกีฬาตะกร้อในแต่ละตำแหน่ง

เกณฑ์การพิจารณาการตัดสิน จะมีดังต่อไปนี้
1.สัมภาษณ์ตามกรอบคำถามด้านความรู้เกี่ยวกับผู้ฝึกสอนกีฬาตะกร้อ เกณฑ์ระดับคะแนน คือ ดีมาก 7-9 คะแนน, ดี 4-6 คะแนน, พอใช้ 1-3 คะแนน
2.ประสบการณ์ และผลงานที่ผ่านมา (ประสบความสำเร็จอะไรบ้าง พร้อมทำแบบสรุป) เกณฑ์ระดับคะแนน
ดีมาก 7-9 คะแนน, ดี 4- 6 คะแนน, พอใช้ 1 -3 คะแนน
3.เกณฑ์การตัดสิน ใช้เรียงลำดับคะแนน คัดเลือกไว้ 12 คนตามลำดับ เพื่อให้สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย สามารถนำไปกำหนดเป็นผู้ฝึกสอน กลุ่ม A, B หรือ C เพื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็น และความต้องการของสมาคมในโอกาสต่อไป

ส่วนระยะเวลาการดำเนินงาน โดยจะเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคม 2567 ผู้สมัครจะต้องยื่นใบสมัครที่ สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ชั้น 17 การกีฬาแห่งประเทศไทย 286 ถ.รามคำแหง หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพ 10240

ทั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติ ระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคม 2567 ซึ่งประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์ ระหว่างวันที่ 13 มีนาคม 2567 โดยผู้ผ่านคุณสมบัติเข้ารับการสัมภาษณ์ ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม 2567

การยื่นใบสมัครนั้น ผู้สมัครจะต้องยื่นใบสมัคร พร้อมทั้งเอกสารประกอบดังนี้
1.ใบสมัคร จำนวน 1 ฉบับ
2.รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1.5 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
3.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจของผู้สมัคร
4.สำเนาวุฒิการศึกษา
5.ใบรับรองแพทย์
6.ประกาศนียบัตรหรือหลักฐานอื่นๆ
ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับเอกสารใบรับสมัคร และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  น.ส.การะเกด นิลเขียว โทร.086-0666456 และ น.ส.ภูริชญา ครอบทอง โทร. 082-2985710