ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทัพของ คล็อปป์ โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจหลังเอาชนะ เชลซี ทีมร่วมศึกพรีเมียร์ลีก 1-0 ในฟุตบอลคาราบาว คัพ ฤดูกาล 2023-24 เมื่อวันที่ 25 ก.พ. จากประตูชัยของ เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ ที่โหม่งเข้าไปในนาที 118

โดยเกมนี้ “หงส์แดง” เจอสถานการณ์บังคับหลังต้องส่งผู้เล่นสำรองลงสนามหลายราย รวมถึงม้านั่งสำรองก็มีแต่บรรดาแข้งดาวรุ่งหลังนักเตะในทีมชุดใหญ่บาดเจ็บถึง 11 คน

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ “หงส์แดง” คว้าแชมป์รายการดังกล่าวไปครองเป็นสมัยที่ 10 ของสโมสรต่อจากฤดูกาล 1980-81, 1981-82, 1982-83, 1983-84, 1994-95, 2000-01, 2002-03, 2011-12, 2021-22

นอกจากนั้นยังเป็นการที่ คล็อปป์ พา ลิเวอร์พูล ซิวโทรฟี่รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากซีซั่น 2021-22 และเป็นแชมป์ถ้วยที่ 7 ของเขากับ “หงส์แดง”

หลังเกม คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่มันบ้าไปแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้ ทีม และอะคาเดมีที่เต็มไปด้วยคาแร็กเตอร์ ผมภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคืนนี้ สิ่งที่บ้าที่สุดก็คือเราสมควรได้รับมัน (แชมป์) เรามีช่วงเวลาที่โชคดี พวกเขามีช่วงเวลาที่โชคดี เด็กๆ ปรากฏตัว มันเจ๋งจริงๆ”

นอกจากนั้นเฮดโค้ชวัย 56 ปียังระบุถึงนักเตะดาวรุ่งในทีมที่ได้ลงสนามในแมตช์นี้ว่า “เราต้องการความสดใหม่ พวกเขายังเด็ก แต่พวกเขาทำงานได้ดี เด็กๆ ฝึกซ้อมกับเรามาเป็นเวลานาน พวกเขารู้ดีว่าเราต้องทำอะไรบ้าง นั่นคือสิ่งที่คุณต้องเป็นในช่วงเวลาเหล่านี้”

“แต่ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น ทั้ง ฮาร์วีย์ (เอลเลียตต์) ที่ลงสนาม120 นาที วาตารุ (เอ็นโด) ที่เดินไปรับถ้วยด้วยขาที่แข็งแกร่งที่สุด เราไม่ได้พูดถึงคอเนอร์ (แบรดลีย์) เขาเก่งมาก ควิวิน (เคลเลเฮอร์) เขาเก่งมาก เรามีผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกและมือสองที่ดีที่สุดด้วย”