วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567
22 ก.พ. 2567 13:26 | 302 view
@yaovarest
นายกฯ รับถึงเวลาที่เหมาะสมจะนัดผู้ว่าธปท.หารืออีกครั้ง มองว่าเป็นสิทธิ์ของธปท. ที่ยังไม่ลดดอกเบี้ย แต่จะเรียกร้องต่อไปไม่ว่าจะเป็นครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 ย้ำความสัมพันธ์กับผู้ว่าธปท.ให้เกียรติต่อกัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึง กรณีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นว่า เขามองว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมกับกล่าวว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินก่อนเวลาอันควรนั้น จะทำให้เสถียรภาพด้านการเงินของไทยเผชิญกับความเสี่ยง ว่า ได้ยินมา แต่ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ว่าธปท. ซึ่งหน้าที่ตนอภิปรายถึงความเดือดร้อนของประชาชน การที่ธปท.มีความเป็นอิสระ และรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้บังคับโดยตรง แต่ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับผู้ว่าธปท. ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และ สิ่งที่เรียกร้องไปมีเหตุผล
ส่วนที่ผู้ว่าธปท.ให้เหตุผล 3 ข้อ ว่า หากลดดอกเบี้ยลงมาก็ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายมากขึ้น หรือทำให้จีนนำเข้าปิโตเคมีจากไทยมากขึ้น หรือทำให้รัฐบาลต้องกระจายงบประมาณเร็วขึ้น นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องให้จีนนำเข้าสินค้าไทยมากขึ้น ให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น แต่ที่นักท่องเที่ยวยังไม่ใช้จ่ายมากนั้น เพราะค่าเดินทางราคาสูงอยู่ ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ก็พยายามทำให้ค่าเดินทางถูกลง ทำให้มีเงินในกระเป๋าเยอะขึ้น และจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
สำหรับเรื่องงบประมาณ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลใช้นโยบายในการขับเคลื่อยนเศรษฐกิจ และคาดว่า จะสามารถใช้งบประมาณได้เร็วขึ้นจากเดือนพ.ค. มาเป็นเดือนเม.ย. ก็พยายามทำอยู่ รวมถึงเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ใน 3 ข้อ ทางผู้ว่าธปท.ไม่ได้พูดถึงเรื่องประชาชนเลย จึงอยากให้ช่วยกลับมาคิดเรื่องประชาชนด้วย และเป็นสิ่งที่เราช่วยกันได้ และเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันต่อไป
กรณีที่นายกรัฐมนตรี เคยเรียกร้องไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างน้อย 3 ครั้งแล้วนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ก็จะมีการเรียกร้องครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 ต่อไป ซึ่งเราอยู่ในสังคมที่เจริญแล้ว พัฒนาแล้ว มีความเห็นต่างได้ สามารถอยู่ร่วมกันได้และไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่ได้มีบรรยากาศที่ไม่น่าทำงานร่วมกัน
“ก็ต้องคุยต่อไป ก็ต้องพยายามต่อไปด้วยเหตุด้วยผล ตัวเลขการชี้นำเศรษฐกิจต่างๆก็บ่งบอกอะไรหลายๆอย่าง 2.5% ยังมีรูมเหลือเยอะแยะ ถ้าเกิดมีวิกฤติอะไรเกิดขึ้น 0.25 ไม่ได้เป็นอะไรที่จะทำให้ไม่สามารถเคลื่อนนโยบายต่างๆได้”นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ทางรองผู้ว่าธปท.เคยมาพูดคุยกับตนว่า ถ้าเกิดลดดอกเบี้ยไป คนที่มีเงินฝากธนาคารก็อาจไปดูเรื่องสินทรัพย์เสี่ยงที่มีมากขึ้น เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น เพราะวันนี้เราพูดคุยถึงคนที่อยู่ฐานราก จึงอยากให้ผู้ว่าธปท.คำนึงถึงพี่น้องประชาชนในมิติอื่นๆด้วย ทั้งนี้ ผู้ว่าธปท.เคยพูดคุยเหตุผลโดยตรงๆกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ที่ยังมีความเห็นต่างกันนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็อธิบายพูดคุยกันไป ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ส่วนการที่ผู้ว่าธปท.ระบุว่า ถ้าลดดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะส่งต่อภาวะหนี้ครัวเรือนนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หนี้ครัวเรือนสูงอยู่แล้ว และคนที่ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยค้างจ่ายก็ไปอยู่ที่หนี้ครัวเรือน ก็เพิ่มสูงขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เมื่อถึงเวลาสมควรจะมีการนัดหมายกับผู้ว่าธปท. เพื่อมาพูดคุยกัน
ข่าว
20 ก.ย. 2567 14:02 31 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:58 59 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:23 36 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:22 29 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:19 28 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:36 76 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:34 71 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:30 96 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:48 76 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:13 87 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:10 62 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:04 78 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:01 117 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 09:50 103 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 09:34 93 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 09:19 101 views