ตร.ทำแผนคดี ทอย ผัวโหดกระทืบโหด นุ่น เมียสาว ก่อนลากร่างจับยัดใส่กระเป๋าไปเผาอำพรางศพที่จังหวัดปราจีนบุรี 

 จากกรณีที่นายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าน.ส.ชลลดา มุธุวงศ์ อายุ 27 ปี แฟนสาวหายตัวไปหลังจากมีปากเสียงทะเลาะกันบนรถขณะเดินทางกลับจากงานวันเกิดเพื่อนแฟน ก่อนที่แฟนสาวจะลงจากรถจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 03.00 น. จนเมื่อวันที่ 20 ก.พ.67 พบศพผู้เสียชีวิตถูกเผาที่ จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายศิริชัย มาสอบปากคำอีกครั้ง จนรับสารภาพว่าก่อเหตุฆ่า น.ส.ชลลดา จริง

    เมื่อวันที่ 21 ก.พ.67 พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด ได้ควบคุมตัวนายศิริชัย มาสอบปากคำเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ได้คุมตัว นายศิริชัย หรือทอย สามีใจเหี้ยม ไปชี้จุดที่ทำร้ายร่างกายภรรยาตัวเองจนเสียชีวิต  ก่อนนำร่างไปเผาเพื่ออำพรางศพ ที่ จังหวัดปราจีนบุรี  

    จุดที่ 1 ที่บ้านเลขที่ 53/271 ซอย2 มหมู่บ้านลูกกอล์ฟเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่คุมตัวนายศิริชัย ชี้จุดที่ใช้อิฐบล็อค ทุบศีรษะ น.ส.ชลลดา ที่หน้าบ้าน และที่ห้อนนอน จนเสียชีวิต

    จุดที่ 2 ปั้มน้ำมัน ถนนแจ้งวัฒนะ ฝั่งขาเข้า ช่วงจุดตัดถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด เป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุขับรถนำศพ น.ส.ชลลดา ใส่รถไปแวะเติมน้ำมัน ก่อนที่จะนำศพไปทิ้งและเผาที่ จ.ปราจีนบุรี

    จุดที่ 3 เป็นจุดที่หน้าปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 38 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด บริเวณทางเท้าหน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่ทำร้ายครั้งแรก ช่วงเวลา 22.47 น. ทั้งเตะ ถีบและใช้หินถุ่มใส่ศีรษะ น.ส.ชลลดา ก่อนลากขึ้นรถกลับบ้านพัก ซึ่งจุดนี้ทำให้สามารถได้ภาพบันทึกกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ได้ทั้งหมด จึงนำไปสู่การจับกุมตัวนายศิริชัย

โดยภายหลังการชี้ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.สมพล  ระบุว่า เบื้องต้นจากการนำชี้ในวันนี้ตัวผู้ต้องหาให้การในจุดเกิดเหตุที่เป็นบ้านพักว่าเป็นจุดที่ใช้ของแข็งทุบตีที่ศรีษะของภรรยา ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่ทำให้เสียชีวิต ส่วนบริเวณปั๊มน้ำมันเป็นการซื้อน้ำมันเพื่อใช้ในการเตรียมการอำพรางศพของภรรยา 

ขณะที่ในส่วนของจุดเกิดเหตุบริเวณริมถนนแจ้งวัฒนะปากเกร็ด 38 ซึ่งบรรจุที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดวงจร จุดนี้ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นจุดที่ทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นจุดแรก ซึ่งจากคำให้การยังพบว่ามีการใช้ของแข็งบางชิ้นร่วมทำร้ายร่างกายด้วย แต่ขณะนั้นภรรยาสาวยังเสียชีวิต จึงมีการลากร่างของภรรยาสาวขึ้นรถกลับไปก่อเหตุซ้ำที่บ้านพัก  ก่อนนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุจำนวน 2 จุดเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีในการส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ

    จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้คุมตัวผู้จ้องหาขึ้นรถตู้เดิยทางไป จ.ปราจีนบุรี เพื่อชี้จุดที่นำศพไปทิ้งและเผาอำพราง ก่อนนำตัวกลับมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป