ช่วงเปลี่ยนฤดูกระแสลมแปรปรวน จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง แต่มีข้อดีทำให้ฝุ่นลดลง

วันที่ 18 ก.พ.67 - ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือเป็นพื้นที่เดียวที่อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส เนื่องจากคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุม ยอดดอยยอดภูอากาศยังหนาว ส่วนพื้นที่อื่นๆ มีลมจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย พัดพาความชื้นขึ้นมา ทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์นี้จะมีฝนตั้งแต่ภาคเหนือและอีสานตอนล่างลงไปถึง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯและภาคตะวันออก 

โดยวันนี้มี  ฝนใน 16 จังหวัด ได้แก่เลย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี นครราชสีมา สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี และราชบุรี ขอให้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส แต่มีข้อดีทำให้การระบายอากาศดีขึ้นและฝุ่นลดลง ส่วนภาคใต้ ฝนลดลงและคลื่นลมอ่อนกำลังลง

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าฤดูร้อนจะเริ่มต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งช้ากว่าปกติ 1-2 สัปดาห์และจะสิ้นสุดปลายเดือนพฤษภาคม โดยอากาศจะร้อนกว่าปีที่ผ่านมา อุณหภูมิสูงสุด 43 ถึง 44.5 องศาเซลเซียส และจะเกิดพายุฤดูร้อนเป็นบางช่วง ดังนั้นต้องเตรียมการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน และวางแผนการใช้น้ำโดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ภาคเหนือ : อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวันโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคกลาง : มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี พัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสตั้งแต่จังหวัดสุราษฎ์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร  ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) :  มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.