ภรรยาศรีสุวรรณเข้ารับทราบข้อกล่าวหา  ปัดตอบคำถามสื่อ ด้าน "รองเต่า" แย้ม ข้อมูลคดีตบทรัพย์ยังไม่นิ่ง และเชื่อมโยงถึงแก๊งนักร้อง ที่รวมตัวเป็นคนดี

นางณพัชญ์ปภา จรรยา อายุ 43 ปี ภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับทนายความ ตามหมายเรียกในข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดฯ ก่อนจะเดินเข้าไปพบพนักงานสอบสวนภายในห้องสอบสวนที่ชั้น 16 ทันที โดยยังไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน ในกรณีมีส่วนรู้เห็นกับเงิน 5 แสนหรือไม่ รวมถึงเรามีส่วนร่วมกับการตบทรัพย์

ต่อมา พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ว่า วันนี้นาง ณพัชญ์ปภา ภรรยาของนายศรีสุวรรณ มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก  เรียกว่าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากนี้ก็จะมีการสอบปากคำ และพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินสำหรับตนเองโดยมิชอบ และคาดว่าพนักงานสอบสวนน่าจะให้ประกันตัว ซึ่งตนยังไม่ได้มีการสอบถามถึงพฤติกรรม เพียงแต่ให้กำลังใจ

เบื้องต้น เชื่อว่าภรรยาของนายศรีสุวรรณมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการรับเงิน 500,000 บาท และมีความเชื่อมโยงไปถึงเงิน 100,000 บาท ซึ่งเป็นเงินชุดแรกที่ผู้เสียหายโอนให้กับแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ในช่วงก่อนปีใหม่ ส่วนที่วานนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกบัญชีม้าของนายศรีสุวรรณมาสอบปากคำเกี่ยวกับการเงินในบัญชี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว ยืนยันว่าคดีนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสรุปสำนวนอย่างชัดเจนในอีกไม่นานนี้ ส่วนเรื่องการยึดอายัดทรัพย์นั้น บก.ปปป.ได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.มาโดยตลอด

วันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้นายศรีสุวรรณมายื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหานั้น สามารถให้ทนายความเข้ามายื่นเรื่องแทนได้ และจนถึงขณะนี้ พนักงานสอบสวนสามารถติดต่อกับทนายความของนายศรีสุวรรณได้ตลอด

ส่วนการพูดคุยกับนายโอวาท ยิ่งลาภ ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากหลักฐานทางแชทไลน์ เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคดีตบทรัพย์  แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลที่พนักงานสอบสวนมีอยู่ยังค่อนข้างเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับนักร้องคนอื่น โดยรองผู้บัญชาการถึงกับพูดติดตลกว่า "ก็เป็นกลุ่มคนดีที่มารวมตัวกัน"