การแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 21 มกราคม กลุ่มเอฟ คีร์กิซสถานพบกับซาอุดีอาระเบีย

นาที 9 ผู้ตัดสินดูวีเออาร์จังหวะที่ ไอซาร์ อักตาร์มอฟ ไปเสียบใส่ ซามี อัล-นาไช ก่อนจะยกเลิกโทษใบเหลืองในทีแรก แล้วเปลี่ยนเป็นใบแดงโดยตรงให้อักตาร์มอฟแทนเพราะมองว่าเป็นการเล่นที่อันตราย คีร์กิซสถานเหลือผู้เล่น 10 คน

นาที 35 อับดุลเอลลาห์ อัล-มัลคี ยิงไกลลูกพุ่งชนเสาแล้วเด้งไปเข้าทาง ซาอุด อับดุลฮามิด เปิดจากด้านขวาของเขตโทษลอยไปเสาสองถึง โมฮาเหม็ด คันโน ตวัดวอลเลย์เข้าไป ซาอุดีอาระเบียจึงเป็นฝ่ายนำเมื่อจบครึ่งแรก 1-0

ครึ่งหลังนาที 52 สถานการณ์ของคีร์กิซสถานแย่ลงไปอีก คิมี เมิร์ก ไปเสียบใส่ ฮัสซัน อัล-ทัมบักตี ผู้ตัดสินจึงแจกใบแดงให้เมิร์กทันที คีร์กิซสถานต้องเหลือผู้เล่นแค่ 9 คน

นาที 84 ไฟซัล อัล-กัมดี รับบอลจากเพื่อนแล้วเลี้ยงขึ้นมาก่อนยิงจากระยะประมาณ 25 หลา ผู้รักษาประตูปัดพลาดบอลเด้งลงพื้นเข้าสู่ก้นตาข่าย ซาอุดีอาระเบียจึงชนะไป 2-0

สถานการณ์ของกลุ่มนี้หลังผ่าน 2 นัด 1. ซาอุดีอาระเบีย (6 คะแนน), 2. ไทย (4 คะแนน), 3. โอมาน (1 คะแนน), 4. คีร์กิซสถาน (0 คะแนน)

ซาอุดีอาระเบียผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์แน่นอนแล้ว ขณะที่ทีมชาติไทยโอกาสเข้ารอบแบบปกติจัดว่าสดใส โดยนัดหน้าขอแค่ไม่แพ้ซาอุดีอาระเบีย หรือถ้าแพ้ก็ไปลุ้นอีกต่อให้โอมานไม่ชนะคีร์กิซสถานด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรไทยก็การันตีอันดับ 3 เป็นอย่างน้อยแน่นอน

ด้านโอมานมีหนทางเข้ารอบแบบปกติเพียงประการเดียว โดยแมตช์หน้าต้องชนะคีร์กิซสถาน พร้อมกับที่ไทยต้องแพ้ซาอุดีอาระเบียด้วย จากนั้นจึงจะมาวัดประตูได้เสียกันเพื่อชิงอันดับ 2 ส่วนคีร์กิซสถานหมดสิทธิ์เข้ารอบแบบปกติ แต่ยังมีลุ้นไปชิงโควต้าอันดับ 3 ที่ดีที่สุด โดยนัดหน้าต้องชนะโอมานให้ได้สถานเดียว