วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567
12 ม.ค. 2567 13:16 | 4040 view
@thanthai"> 1. กินยาดัก เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย พออากาศเปลี่ยน ตากฝน สิ่งที่พ่อแม่นิยมทำก็คือให้ลูกไปอาบน้ำให้เร็วที่สุด แล้วกินยาดักไข้เอาไว้ จะได้ไม่ป่วย ซึ่งเป็นความเชื่อยอดนิยมที่คิดว่ายาจะสามารถป้องกันไข้หวัดได้ โดยเฉพาะการกินยาพาราเซตามอลหรือยาลดไข้ชนิดอื่นๆ ในความจริงนั้น ยาเหล่านี้มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด ลดไข้ แต่ไม่ได้มีสรรพคุณในการป้องกันอาการป่วย ดังนั้น การกินยาดักไข้ตอนที่ยังไม่มีอาการจึงไม่สามารถช่วยป้องกันการเป็นไข้ได้ อีกทั้งยาทุกชนิดมีผลข้างเคียง และอาจเกิดอันตรายหากกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้ตับทำงานหนัก จนเซลล์ตับถูกทำลาย และมีโอกาสเกิดภาวะตับอักเสบได้ในที่สุด 2.เลือกยาให้เหมาะสมกับวัย ตัวอย่างเช่น ยาแก้ไอ ไม่ควรนำยาแก้ไอของผู้ใหญ่มาให้เด็กกิน เพราะยาบางชนิดอาจจะผสมแอลกอฮอล์ หรือยาบางตัวอาจมีฤทธิ์กดศูนย์กลางการหายใจ อาจทำให้เด็กหยุดหายใจจนเสียชีวิตได้ หรือยาแก้ท้องเสีย ไม่ควรให้ยาที่มีความแรงมากในเด็กเล็ก เพราะอาจไปกดการหายใจได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการให้น้ำและเกลือแร่ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ เพราะอาการขาดน้ำในเด็กอาจทำให้เสียชีวิตได้ 3.กินยาเกินขนาด (overdose) จะได้หายเร็วๆ การกินยาในปริมาณหรือขนาดที่มากกว่าแพทย์กำหนด ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ ความเข้าใจผิด หรือคิดว่าจะทำให้หายจากโรคเร็วขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ถูกต้องในเรื่องของปริมาณและระยะเวลาของการกินยา ซึ่งยาที่พบบ่อยว่ากินเกินขนาด คือ ยาพาราเซตามอล โดยแนะนำว่าขนาดที่ถูกต้องในการกินยา 1 ครั้ง ใช้ยาขนาด 10-15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม ขนาดยาอยู่ที่ 600-900 มิลลิกรัม หรือขนาดยา 500 มิลลิกรัม 1.5 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง วันละไม่เกิน 5 ครั้ง อีกทั้งยาพาราเซตามอลนั้นเป็นยารักษาตามอาการ หากไม่มีอาการปวดหรือไม่มีไข้ ก็ไม่จำเป็นต้องกินยา ดังนั้น การกินยาพาราเซตามอลมากเกินไปหรือกินพร่ำเพรื่อติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ตับทำงานบกพร่อง เสี่ยงต่อภาวะตับอักเสบได้ 4.เป็นหวัดเจ็บคอต้องกินยาปฎิชีวนะ ภาวะเจ็บคอส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสหรือที่เรียกกันว่าเชื้อหวัด ส่วนอาการเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรียนั้นจะต้องมีอาการบ่งชี้อื่นๆ เช่น มีไข้สูง มีฝีหนองที่ต่อมทอนซิล น้ำมูก/เสมหะสีเหลือง/เขียว การติดเชื้อไวรัสหรือหวัดไม่มียาฆ่าเชื้อโดยตรง ใช้การรักษาตามอาการให้ร่างกายกำจัดเชื้อออกไปเอง ดังนั้น จึงมีความเข้าใจผิดว่าเมื่อมีอาการเจ็บคอควรซื้อยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะมากินจึงไม่ช่วยรักษาอาการเจ็บคอจากหวัดได้ ข้อห้ามใช้ของยาสำหรับทารกและเด็กเล็กบางชนิดที่ควรจดจำ 1. แอสไพริน (Aspirin) ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ เพราะอาจทำให้มีเลือดออกได้ 2. คลอร์เฟนิรามีน (Chlorpheniramine) ไม่ควรใช้ในทารกอายุต่ำกว่า 2 เดือน เพราะอาจทำให้ซึม นอนไม่หลับ หรือชักได้ 3. คลอแรมเฟนิคอล (Chloramphenicol) ห้ามใช้ในทารกอายุต่ำกว่า 4 เดือน เพราะอาจทำให้เด็กตัวเขียว เนื้อตัวอ่อนปวกเปียก หรือหมดสติได้ 4. โลเปอราไมด์ (Loperamide) ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เพราะอาจกดศูนย์การหายใจ 5. ซัลฟานาไมด์ (Sulfanamide) ห้ามใช้ในเด็กทารกอายุต่ำกว่า 2 เดือน เพราะอาจทำให้เกิด ดีซ่านและสมองพิการได้ 6. เตตร้าซัยคลิน (Tetracyclin) ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบ เพราะอาจทำให้ฟันเหลืองดำอย่างถาวรและกระดูกเจริญเติบโตไม่ดี 7. เดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เพราะยาอาจกดศูนย์กลางการหายใจ ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/myths-medications https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/10-behaviors-for-unsafety-medication-usage
เมื่อลูก ๆ ป่วย สิ่งที่ตามมาก็คือ ความวิตกกังวลของพ่อแม่ ซึ่งไม่ใช่ทุกครั้งที่อาการป่วยรุนแรงถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล หลาย ๆ ครอบครัวก็ดูแลลูกตามประสบการณ์ที่เคยได้ยินได้ฟังมาว่าป่วยแล้วต้องทำอย่างไร กินยาอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องการใช้ยา ยังมีความเข้าใจไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้สำหรับเด็กอยู่หลายกรณี วันนี้เรารวบรวมมาให้เป็นคู่มือสำหรับคุณแม่มือใหม่ว่า หากลุกไม่สบายแล้วต้องกินยา ใช้ยาแบบไหนให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงอันตราย
ข่าว
27 ก.ค. 2567 11:17 0 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 11:14 5 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 10:44 22 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 10:40 30 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 10:11 30 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 10:04 34 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 09:46 24 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 09:34 34 views
ข่าว
27 ก.ค. 2567 09:27 43 views
ข่าว
26 ก.ค. 2567 17:30 182 views
ข่าว
26 ก.ค. 2567 17:17 120 views
ข่าว
26 ก.ค. 2567 17:14 140 views
ข่าว
26 ก.ค. 2567 16:23 105 views
ข่าว
26 ก.ค. 2567 15:55 142 views
ข่าว
26 ก.ค. 2567 15:49 128 views
ข่าว
26 ก.ค. 2567 15:27 114 views