เมื่อวันพุธที่ 10 ม.ค.67 เวลา 13.00 น. ที่ Index Creative Village สุขุมวิท 71 มีการแถลงข่าวการจัดงานAmazing WBC MuayThai World Festival 2024 

โดย พันเอก ธนพล ภักดีภูมิ ประธานสภามวยโลกมวยไทย(WBC MuayThai) ,นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ,  ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายกีฬาและประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, พลเอก อรชัย บุญสุขจิตเสรี ที่ปรึกษาศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี) และนายจิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปี่ยนชิพ ประเทศไทย

สำหรับงาน Amazing MuayThai World Festival 2024จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลวันมวยไทย 6 ก.พ. โดยจะกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2 - 5 ก.พ.67 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (ทั้งภายในและภายนอกสนามมวย) ถ.รามอินทรา กทม. คาดว่ามีผู้ร่วมงานกว่า 1,500 คน จากสมาชิกทั่วทุกมุมโลก  โดยจะมีการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นประเภทเยาวชนอายุตั้งแต่ 11-18 ปี และประเภททั่วไป ตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. ของทุกวัน โดยวันที่ 2-3 ก.พ.จะเป็นการแข่งขันรอบแรก และวันที่ 4-5 ก.พ. จะเป็นรอบชิงชนะเลิศและพิธีมอบรางวัล ซึ่งทุกวันจะมีการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักนักกีฬาโดยทีมแพทย์ทหารจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พร้อมควบคุมการแข่งขันโดยคณะกรรมการผู้ตัดสินชุดใหญ่จากWBC MuayThai โดยใช้กฎกติกาสากลที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

ขณะที่ในวันที่ 1 ก.พ.67 เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 - 14.30 น.จะเป็นการสัมมนาและฝึกอบรมกรรมการผู้ตัดสิน ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างWBC MuayThai , สนามมวยเวทีลุมพินี และ ONE Championship และในช่วงเย็นเวลา17.30 - 20.00 จะเป็นพิธีเปิดงานอันยิ่งใหญ่พร้อมการแสดงวัฒนธรรมมวยไทยประกอบแสงสีเสียงภายในสนามมวยลุมพินีโดยมี ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายกีฬา, นางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งคณะทูตานุทูตต่างประเทศที่มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 50 ประเทศ พร้อมด้วย มร.มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก WBC บินตรงจากเม็กซิโก เข้าร่วมในพิธีเปิดงานนอกจากนี้ยังมีเหล่าซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังของ ONE Championship จะมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจแก่นักมวยเยาวชนทั่วโลกที่มาร่วมงานอีกด้วย

ผศ.พิมลฯ กล่าวว่า " กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Quick Win 100 วันดันมวยไทยไปไกลระดับโลกของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน soft power สาขากีฬา ซึ่งเป็นทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยทุกระดับและการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กีฬามวยไทยทั้งในและต่างประเทศในงานเดียวปัจจุบันรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของมวยไทยในฐานะ soft power ของประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากและทราบว่าต่างชาติมีความต้องการให้นักมวยไทยไปช่วยสอนเทคนิคและทักษะในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่แตกต่างกับกีฬาเทควันโดที่แต่ละชาติก็ต้องการโค้ชและนักกีฬาเทควันโดเกาหลีใต้ไปช่วยสอนเพื่อให้ประเทศของตัวเองนั้นเก่งขึ้น ซึ่งสิ่งที่เหล่านี้ คณะอนุกรรมการฯยินดีให้การสนับสนุนองค์กรต่างๆ เช่น WBC MuayThai , สนามมวยลุมพินี และสมาคมกีฬามวยไทยอื่นๆรวมถึงบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้มวยไทยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้ตามเป้าหมาย"