ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  ลงพื้นที่รับฟังปัญหา หลังช้างร่วม 20 ตัว เข้ามาทำลายพืชผลทางการเกษตร  พร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

 นายชัยพจน์      จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนายจิระชัย อาคะจักร หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์  นายอำเภอภูกระดึงรักษาการแทนปลัดจังหวัดเลย  หน่วยงานที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่บ้านหนองโสน ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย  เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าร่วม 20 ตัว บุกรุกเข้ามาทำลายพืชผลทางการเกษตร ได้รับความเสียหาย  ของนายยุทธพงษ์     สังขทิพย์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 9 บ้านหนองโสน ตำบลภูกระดึง อำเภอภูกระดึง เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา   

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  กล่าว่าว่า การลงพื้นที่บ้านหนองโสนครั้งนี้  เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ที่ลงมาบุกรุกสร้างความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอภูกระดึง ด้วยการทำลายพืชผลทางการเกษตร ทำลายทรัพย์สินของชาวบ้าน และทำร้ายชาวบ้าน จนได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต จึงได้หารือร่วมกัน ระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาโดยให้ช้างป่ากลับขึ้นไปอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่เดิมได้อย่างไร     นายภูริวัจน์     โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง   รักษาราชการปลัดจังหวัดเลย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 เวลา 17.00 น.  มีช้างป่าลงมาทำลายพืชผลทางการเกษตร ทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหาย  เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแต จังหวัดเลย ได้จัดชุดฝ้าระวัง ติดตาม และผลักดันช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่อนุรักษ์  พร้อมจัดชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังที่บ้านซำบ่าง ต.ห้วยส้ม อ.ภูกระดึง จากนั้นได้ออกลาดตระเวนพื้นที่บ้านหนองโสน-บ้านท่ายาง ต.ภูกระดึง

พบช้างโขลงใหญ่กำลังหากินอยู่ในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านหนองโสน พิกัดที่ 47Q 0808084 E 1872721 N เข้าผลักดันช้างแตกโขลงและวนเวียนหากินอยู่ในที่ทำกินของชาวบ้าน จนกระทั่งเวลา 03.00 น. ของวันที่ 9 มกราคม 2567 ได้ทำการผลักดันช้าง ให้มารวมกันได้สำเร็จ  ช่วงเช้าตรู่ทำการตรวจสอบตามทางด่านช้าง และที่ทำกินของชาวบ้าน ไม่มีช้างออกมาสร้างผลกระทบให้กับชาวบ้านแต่อย่างใด  

ทั้งนี้นายจิระชัย    อาคะจักร หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง การลงพื้นที่ในโอกาสนี้ต้อง ขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ที่เห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ระหว่างคนและช้างป่า โดยครั้งนี้มีชาวบ้าน เกษตรกรผู้ประสบปัญหาช้างป่า อาสาเฝ้าระวังช้างป่าภูหลวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานพร้อมใจกันมาร่วมกันแก้ปัญหา เพราะสถานการณ์ช้างป่าในพื้นที่หากไม่เร่งแก้ไข อาจส่งผลเสียต่อชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติอย่างมาก การสร้างความเข้าใจและความร่วมมือจึงเป็นหัวใจสำคัญ

ศข.ขอนแก่น ททบ.5 ภาพ/ข่าว