เดินทางเข้าสู่นัดสุดท้ายของเลกเเรกของ ศึกฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก 2023/24 โดยทัพเเข้งเทพ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดทรู สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนัดตกค้างจากวันที่ 29 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา 

โดยโค้ชเเบน ธชตวัน ศรีปาน จะขาดผู้เล่นอย่าง ปกเกล้า อนันต์ ที่ยังไม่หายจากการบาดเจ็บที่ข้อเท้า 
นอกนั้นจัดตัวผู้เล่นเต็มกำลังตามเคย 

นาทีที่ 12 พรรษา เหมวิบูลย์ ได้ยิงไกล บอลเข้ามือปฏิวัติ 

นาทีที่ 19 จากจังหวะสวนกลับเร็ว นฤบดินทร์ ครอสบอลให้ ศุภชัยโหม่ง เเต่ออกหลังไป 

นาทีที่ 29 นิติพงษ์ ครอสบอลเข้ากลาง บอลไปโดนตัว พรรษา บอลแฉล่บออกหลังไป 

ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งเวลาเเรก ทั้งสองทีมโหมบุกกันอย่างหนัก เเต่ไม่สามารถทำอะไรได้ หมด 45 นาทีแรกเสมอกัน 0-0 

นาทีที่ 47 มาห์มูด ครอสเข้าให้ เเต่คิมมิน ฮยอก สกัดออกหลังเอาไว้ได้

นาทีที่ 50 โมต้า ได้โอกาส หลุดเดี่ยว เเต่ ศิวลักษณ์ วิ่งมาเคลียร์บอลเอาไว้ได้  

นาทีที่ 55 รุ่งรัฐ ครอสบอลให้ เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส เทคตัวขึ้นโหม่งเป็นประตู เเต่กรรมการเป่าเอเวอร์ตัน ฟาว์ลจังหวะโหม่งกับคิมมิน ฮยอก 

นาทีที่ 77 ชญาวัติ ยิ่งไกล บอลออกหลังไป 

GOAL!! นาทีที่ 90+1 ลีออน เจมส์ ส่งบอลให้ โกรัน เคาซิซ ยิงให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนำ 0-1 

ช่วงเวลาที่เหลือ ทัพเเข้งเทพ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไม่สามารถตีเสมอได้ จบเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พ่ายนัดเเรกของฤดูกาล

โปรแกรมนัดต่อไปของเเข้งเทพ จะเบรกให้กับโปรแกรมทีมชาติลุยศึก เอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ เเละจะกลับมาลงทำการเเข่งขันโปรแกรม รีโว ไทยลีก 2023/24 อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 19.00 น. โดยจะออกไปเยือน กิเลนผยอง เมืองทอง ยูไนเต็ด ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดียม 

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด : ปฏิวัติ คำไหม (GK), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา , เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส (C), นิติพงษ์ เสลานนท์, วิศรุต อิ่มอุระ (ชญาวัติ ศรีนาวงษ์ น.76), บาสเซส จราดี้, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์ น.85), สุพรรณ ทองสงค์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, วิลเลน โมต้า, มาห์มูด เอด

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), ศศลักษณ์ ไหประโคน, พรรษา เหมวิบูลย์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, รัตนากร ใหม่คามิ, ศุภชัย ใจเด็ด (โกรัน เคาซิซ น.88), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (C), ลอนซานา ดุมบูยา, ธนกฤต โชติเมืองปัก (ธีราทร บุญมาทัน น.79) , คิมมิน ฮยอก, เสกสรรค์ ราตรี (ลีออน เจมส์ น.58)