วันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567
14 ธ.ค. 2566 13:16 | 656 view
@pracha
โฆษกกระทรวงต่างประเทศย้ำ จีนจะยินดีที่ได้เห็นฝ่ายต่างๆ ที่อยู่ในความขัดแย้งในเมียนมา หันหน้ามาเจรจาสันติภาพ ขณะที่สหภาพยุโรป หรืออียู เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารของเมียนมาเพิ่มเติม
เหมา หนิง โฆษกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า จีนเชื่อว่า สถานการณ์ที่ผ่อนคลายในภาคเหนือของเมียนมาจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายและเอื้ออำนวยให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพในบริเวณชายแดนจีน-เมียนมา พร้อมกล่าวด้วยว่า จีนยินดีที่จะได้เห็นฝ่ายต่างๆ ที่มีความขัดแย้งกันในพื้นที่ตอนเหนือของเมียนมา จัดการเจรจาสันติภาพและบรรลุผลในทางที่ดี และจีนก็พร้อมที่จะเดินหน้าให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการเจรจาสันติภาพต่อไป
ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ MRTVของทางการเมียนมา รายงานอ้างคำแถลงของ ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ที่ระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้ส่งผู้แทนเพื่อจัดการเจรจากับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธทั้ง 3 กลุ่มที่เปิดฉากโจมตีต่อต้านกองทัพรัฐบาลแล้ว ได้แก่ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาของโกก้าง (MNDAA), กองทัพปลดปล่อยตะอาง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA) ภายใต้การอำนวยความสะดวกของจีน การหารือเป็นไปในทิศทางบวกมีแนวโน้มว่าจะเกิดการพูดคุยกันอีกครั้งในปลายเดือนธันวาคมนี้ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าการประชุมเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ไหน
ทั้งนี้ กองทัพชาติพันธุ์ติดอาวุธทั้ง 3 กลุ่ม ที่เรียกตัวเองว่าพันธมิตรสามภราดรภาพ (Three BrotherhoodAlliance) ได้เข้าร่วมกับรัฐบาลคู่ขนานฝ่ายประชาธิปไตยของเมียนมา และเปิดฉากรุกครั้งใหญ่ต่อกองทัพเมียนมาพร้อมกันในหลายรัฐทางตอนเหนือและตะวันตก รวมถึงในในรัฐฉาน ใกล้กับพรมแดนจีนกับเมียนมา สามารถควบคุมฐานทัพทหารหลายแห่งและเมืองต่างๆ ใกล้พรมแดนติดกับจีน ถือเป็นการสู้รบที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 ที่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง การปะทะกันเกิดขึ้นจีนเรียกร้องหลายครั้งให้ยุติความขัดแย้ง ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้พลเรือนชาวจีน อพยพออกจากพื้นที่เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย ขณะที่สหประชาชาติระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ขณะนี้มีคนกว่าครึ่งล้านต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น
ด้านสหภาพยุโรป หรืออียู ออกมาประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลภายในและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่มขึ้นอีกชุด เป็นบุคคล 4 คนในรัฐบาลและกองทัพเมียนมา และผู้จัดหาอาวุธให้กับกองทัพเมียนมาอีก 2 ราย รายชื่อดังกล่าวประกอบด้วยรัฐมนตรีในสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา 2 คน และผู้บัญชาการที่รับผิดชอบต่อการโจมตีทางอากาศที่มุ่งเป้าไปที่พลเรือน โดยเฉพาะในรัฐกะยา ส่วนบริษัทอีก 2 แห่งที่จัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพเมียนมาที่ถูกคว่ำบาตร ประกอบด้วย กลุ่มบริษัทสตาร์ แซฟไฟร์ และบริษัท รอยัล ชุน เล่ย จำกัด ที่จะต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรจากอียูด้วยเช่นกัน
ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว เงินทุนของผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่ถูกคว่ำบาตรในอียูจะถูกอายัดไว้ และบุคคลเหล่านี้ยังถูกห้ามไม่ให้เดินทางเข้าไปในอียูอีกด้วย
ข่าว
20 ก.ย. 2567 15:44 165 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 15:41 103 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 14:02 129 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:58 165 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:23 149 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:22 123 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:19 127 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:36 159 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:34 156 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:30 180 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:48 160 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:13 171 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:10 149 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:04 156 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:01 253 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 09:50 189 views