หลังจากที่ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตดาวยิง “เพชรฆาตหน้าหยก” ของวงการฟุตบอลไทย เปิดตัวอยู่ในสภากรรมการของ “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯคนใหม่นั้น

ล่าสุด ปิยะพงษ์เปิดเผยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการเข้ามาอยู่ในทีมงาน “มาดามแป้ง” ว่าตอนที่โทรมานั้นกำลังเตะบอลอยู่พอดีเลย ต้องขอบคุณที่ให้เกียรติเข้ามาอยู่ในทีมงาน มาดามแป้งบอกว่าอยากให้เข้ามาช่วยพัฒนาฟุตบอลไทย เรื่องของการทำงานยังไม่ได้คุยกันเป็นกิจจะลักษณะแต่ส่วนตัวถนัดแค่ฟุตบอล ฉะนั้น งานก็คงอยู่ที่ฟุตบอลเท่านั้น พัฒนาตั้งแต่เด็ก 8 ขวบ ไปจนถึงทีมชาติไทย เราจะอยู่ในส่วนที่เราทำได้ รวมถึงการพัฒนาฟุตบอลลีกที่มันวุ่นวายอยู่ในตอนนี้

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงจากเดิมที่จะลงชิงนายกสมาคมฯ แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ในทีมงานแทน เดอะตุ๊กกล่าวว่า ตอนแรกที่จะสมัครเพราะไม่มีใครลง อยากลงมาพัฒนาวงการฟุตบอลไทย แต่พอมาดามแป้งเปิดตัวว่าจะลงก็เลยถอนตัว ก่อนที่มาดามแป้งจะมาชวนให้เข้ามาช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ซึ่งตนก็ยินดีพร้อมช่วยเหลือ

อดีตดาวยิงทีมชาติไทย กล่าวถึงทีมงานชุดนี้ของมาดามแป้งว่า ที่ผ่านมาผู้บริหารจะคล้ายนักการเมือง มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แต่มาดามแป้งสามารถรวมให้คนเหล่านี้มาอยู่ด้วยกันได้ ตอนนี้ไม่มีแบ่งสี แบ่งฝ่าย ทุกคนต้องการมาพัฒนาวงการฟุตบอลไทยด้วยความรัก ความสามัคคี ซึ่งตนก็เชื่อมั่นในทีมนี้ที่รวมเอาผู้ใหญ่วงการฟุตบอลทุกค่ายมารวมตัวกัน เป็นเรื่องดีที่จะได้เดินหน้าทำงานร่วมกันไป

ปิยะพงษ์กล่าวเสริมว่า เมื่อได้เข้ามาทำงานจะต้องประชุมวางแผนกับ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อุปนายกก่อน เราจะกางข้อมูลมาดูกันว่าตอนนี้ขาดอะไรบ้าง มีอะไรบ้าง นำมาทำเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วออกเป็นนโยบายของสมาคม ส่วนทีมงานที่เล็งไว้ก็จะเป็นพวกโค้ชไทยต่างๆ ที่จบโปรไลเซนส์ เอไลเซนส์ บีไลเซนส์ และซีไลเซนส์ จะต้องเอาคนเหล่านี้มาใช้งาน เราต้องการคนที่มีคุณภาพหลากหลาย เพราะทำคนเดียวไม่สำเร็จแน่นอน ตอนนี้ก็มีทาบทามเอาไว้บ้างแล้ว ทั้งอดีตนักเตะ, อดีตโค้ช แล้วก็พวกจบโปรไลเซนส์ที่ตกงานอยู่ จะเอามาใช้งานแน่นอน

เดอะตุ๊กกล่าวปิดท้ายว่า เป้าหมายหลักเลยคือในยุคนี้ทีมชาติไทยจะต้องมีโค้ชกองหน้า จะหาโค้ชกองหน้ามาติว เชิญกองหน้าระดับโลกมาให้ความรู้ เราจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นโดยเฉพาะแดนหน้า จะไปเชิญทั้ง พิพัฒน์ ต้นกันยา, ศรายุทธ ชัยคำดี หรือเนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ มาคุย ร่วมพัฒนากองหน้าไทย เพราะนี่คือสิ่งที่ไทยขาดอยู่ และเป็นเป้าหมายที่จะทำให้ได้