เดอะมอลล์ทุ่ม5หมื่นล.สร้างย่านการค้าเทียบชั้นระดับโลก  ดีเดย์ 1 ธันวาคมนี้  เปิดตัว ดิ เอ็มสเฟียร์ ความเร้าใจและชีพจรแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ บนพื้นที่ 2 แสนตารางเมตร

นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์การบริหารธุรกิจรีเทล มากว่า 4 ทศวรรษ บริษัทฯ “สร้างย่านการค้าจนประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา” ในย่านรามคำแหง ท่าพระ งามวงศ์วาน และยิ่งใหญ่ใน 2 มุมเมืองเมื่อปี 2537 ในย่านบางกะปิ สำหรับโครงการอภิมหาอาณาจักรศูนย์การค้าครบวงจร เดอะมอลล์ บางกะปิ และ ในย่านบางแค เพชรเกษม สำหรับเดอะมอลล์ บางแค ต่อเนื่องกับโครงการ “ลักซ์ชูรีมอลล์แห่งแรกในประเทศไทย” ในปี 2540 กับโครงการศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และปี 2558 กับโครงการศูนย์การค้า ดิ เอ็ม
ควอเทียร์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการ เป็นโครงการสำคัญในย่านกลางเมือง (Mid-Town) ที่ส่งให้เกิดการขยายตัวของสังคม เศรษฐกิจ บริเวณใจกลางถนนสุขุมวิท การสร้างย่านค้าปลีกเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของเดอะมอลล์มานานแล้ว  ทั้งนี้ในวันที่ หวังจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจ ตลอดจนสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดย บริษัทได้ใช้เงินลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อเนรมิตย่านการค้า  ใน 3 มุมเมือง ทั้งสุขุมวิท บางแค และบางกะปิ แบ่งการลงทุนเป็น 3 ส่วน 20,000 ล้านสำหรับสร้างย่าน เอ็ม ดิสทริค บนถนนสุขุมวิท และอีก 30,000 ล้านบาท สำหรับการรีโนเวทครั้งใหญ่ของเดอะมอลล์บางกะปิและบางแค เป็น เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์

“ดิ เอ็มสเฟียร์ ถูกออกแบบเป็น 2 อาคารที่เชื่อมต่อกัน ภายใต้แนวคิดการตกแต่งภายในแบบอินดัสเตรียลสไตล์ ซึ่งเป็นเทรนด์การออกแบบที่ได้รับความนิยม โดยเราใช้เวลา 3 ปี ในการออกแบบ ดิ เอ็มสเฟียร์ เพื่อให้เป็นศูนย์การค้าที่มีความยูนีค มีความเฉพาะตัว และโดดเด่นจากผู้ประกอบการรายอื่น และประสบการณ์ที่จะได้จากศูนย์แห่งนี้จะไม่ซื้อได้ด้วยเงินและทำให้เป็นย่านการค้าแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบ สามารถเทียบชั้นกับมหานครสำคัญๆของโลกได้” นางสาวศุภลักษณ์กล่าว

ด้านนายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มดิสทริค กล่าวว่า การเปิด ดิ เอ็มสเฟียร์ เป็นเพียงก้าวแรกในการเติมเต็ม เอ็ม ดิสทริค ให้สมบูรณ์ในอนาคตเอ็มดิสทริคจะมีร้านอาหาร ที่ปิดดึก หลังเที่ยงคืน บางร้านเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เป็นศูนย์รวมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตอบโจทย์แนวคิด เมืองที่ไม่เคยหลับไหลผสานกับศักยภาพของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ระดับเวิลด์คลาส นอกจากนี้การเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนท์ระดับเวิลด์คลาสได้แก่ ยูโอบี ไลฟ์ ซึ่งเป็นเวิลด์คลาสอารีน่า จุผู้ชมได้ถึง 6,000 ที่นั่ง อารีน่าแห่งนี้สามารถรองรับการจัดคอนเสิร์ต กิจกรรมระดับโลกงานจิวเวลรี่ งานวอทช์แฟร์ จึงสามารถเป็นศูนย์กลางเอ็นเตอร์เทนเมนท์ในระดับภูมิภาคอาเซียนได้ ไม่เพียงเท่านี้ ดิ เอ็มสเฟียร์ ยังเป็นสถานที่โชว์เคสของสุดยอดนวัตกรรมยนตรกรรมระดับโลก อาทิ Rolls-Royce, BMW และเป็นศูนย์กลางการ Hang out พร้อมศูนย์รวมสินค้าตามเทรนด์และไลฟ์สไตล์กว่า 300 ร้านค้า จากกว่า 1,000 แบรนด์

ด้านนางสาวอรธิรา ภาคสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการอาวุโส เอ็มดิสทริค กล่าวว่า “ดิ เอ็มสเฟียร์ จะเป็นศูนย์รวมแฟชั่นแห่งใหม่ใจกลางเมืองด้วยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำกว่า 40 แบรนด์ กับคอนเซ็ปต์พิเศษที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย และแบรนด์ไฮไลท์ คลับ 21 แล็บ ที่มีสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์หลากหลายแบรนด์ พร้อมกันนี้ยังมีแบรนด์จากไทยดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกที่จะมาดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ในกลุ่มร้านอาหารพบกับร้านอาหารทั้งแบบบรรยากาศหรูหราที่เสิร์ฟเมนูสุดคลาสสิกของเชฟมิชลินชื่อดังระดับโลกพร้อมด้วยร้านพิซซ่าแป้งซาวโดวจ์อันเป็นเอกลักษณ์ และเบเกอรี่แห่งใหม่จากไอเบอรี่ กรุ๊ป หรือ สายชา พลาดไม่ได้กับชานมไข่มุกหมื่นล้านจากจีนตลอดจนเป็นครั้งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการให้บริการของ IKEA ในคอนเซ็ปต์ “สโตร์ใจกลางเมือง” บนพื้นที่กว่า 12,000 ตร.ม.

นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของการรวมร้านดังทั้งกรุงเทพฯและโซเชียลมีเดีย มาเปิดให้บริการ ในศูนย์การค้าเป็นครั้งแรก ได้แก่ RINTARO ร้านไอศกรีม Gelato สัญชาติญี่ปุ่น, โรงกลั่นเนื้อ ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังจากถนนทรงวาด, ZAO ร้านอาหารอีสานชื่อดัง, MEDIUMS ร้านสารพัดเครื่องเขียน แนวครีเอทีฟ รวมถึงร้านชั้นนำที่มีคอนเซ็ปต์พิเศษร้านอาหารอิตาเลี่ยนแบรนด์ใหม่ล่าสุดที่นำความอร่อยสุดคลาสสิกของอาหารอิตาเลียนมานำเสนอในรูปแบบใหม่ รวมถึง เชคแช็ค ร้านเบอร์เกอร์ดังจากอเมริกา กับคอนเซ็ปต์ใหม่บนถนนสุขุมวิท

//////////////////////////