วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567
10 พ.ย. 2566 08:18 | 23477 view
@endoo
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกรายการจากนโยบายสู่การลงมือทำจริง 60 วัน ภายใต้รัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 วัน ในการเป็นรัฐบาลของประชาชน เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงความคืบหน้าในนโยบายที่ให้ไว้ และอุปสรรคในการทำงาน
นาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ผ่านรายการพิเศษ “Chance of Possibility จากนโยบายสู่การลงมือทำจริง 60 วัน ภายใต้รัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน” โดยระบุว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการลดรายจ่ายให้ประชาชน ซึ่งที่ดำเนินการไปแล้วเป็นระยะเร่งด่วน อาทิ ลดค่าไฟ ซึ่งขณะนี้เหลือ 3 บาท 99 สตางค์ต่อหน่วย และลดราคาค่าน้ำมัน ลดดอกเบี้ยเงินกู้ การพักหนี้ และที่จะทำต่อไป คือการลดปัญหาหนี้ในครัวเรือน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ประชาชนเดือดร้อน เพราะดอกเบี้ยสูงทำให้เงินต้นไม่ลดลง ส่วนการเพิ่มรายได้ก็มีหลายมิติ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะมีการแถลงรายละเอียดวันนี้ (10 พ.ย.66) ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของหลักการ ใครจะได้รับบ้าง และรัศมีในการใช้จ่าย ขณะเดียวกัน ก็มีนโยบายเพิ่มรายได้เกษตรกร โดยการให้ความรู้ด้านการเกษตร รวมทั้งเปิดตลาดเกษตรใหม่ๆ เช่น แอฟริกา ประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งการเปิดตลาดใหม่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ คาดว่าจะทำให้ราคาพืชผลขยับขึ้นราคาได้
สำหรับภาคการท่องเที่ยว ก็คือ Visa free ให้กับชาวจีน คาซัคสถาน ไต้หวัน อินเดีย ก็ได้ดูแลนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก้าวแรก ที่เข้ามาในประเทศไทย กระทั่งออกจากประเทศไทยไป ทั้งนี้รัฐบาลมุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวต่างชาติพำนักในประเทศไทยในระยะยาวมากขึ้นด้วยการสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรอง ขยายศักยภาพของสนามบิน รวมทั้งยกระดับสนามบินเมืองรองให้ดีขึ้น
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ยืนยันเดินหน้าต่อ เพราะจะส่งผลดีต่อการขนส่งสินค้าภาคการเกษตร โดยมีแผนจะเชื่อมไปถึง สปป.ลาว และจีน ควบคู่ไปกับพัฒนาระบบบริหารจัดการสินค้าระหว่างชายแดน โดยเฉพาะระบบบริการ Single Window เชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจ ในการขนส่งสินค้าจากไทย ไปสปป.ลาว ควบคู่ไปกับการทำงานในหลาย ๆ ภาคส่วน เพื่อให้ง่ายต่อภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการสามารถส่งผลผลิตได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้จากการที่ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา และ UN ทำให้เห็นว่าปัจจุบันภูมิรัฐศาสตร์เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบรุนแรง ซึ่ง UN ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงมีการจัดหัวข้อมาพูดคุยกัน โดยในปีนี้เป็นเรื่องของพลังงานสะอาด ไทยก็พูดถึงเรื่องหุ้นกู้สีเขียว โดยแสดงเจตจำนงว่าไทยเป็นห่วงและใส่ใจเรื่องนี้ และมุ่งสู่ net zero carbon ทั้งนี้ได้พูดคุยกับบริษัทใหญ่ๆ ก็สนใจมาลงทุนในไทย ในสัปดาห์หน้าจะมีการไปเจรจา และมีการลงนามใน MOU ด้วย เพื่อแสดงออกว่าประเทศไทยเปิดแล้วและมีความพร้อมสนับสนุนมาตรการด้านภาษี BOI พลังงานสะอาดรองรับ ค่าครองชีพดี สังคมดี ไทยจึงมีความครบในการเสนอตัวเป็น Hub การผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆสอดคล้องกับการเยือนประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน รวมถึงฮ่องกง เพื่อพูดคุยถึงโอกาสในการทำธุรกิจ และพูดคุยถึงปัญหาที่ไทยมีกับประเทศเหล่านั้น
อีกทั้งยังได้เปิดเผยถึงความต้องการวัวจากจีนและซาอุดีอาระเบีย สู่การเพิ่มรายได้ 3 เท่าให้เกษตรกร ซึ่งประเทศเหล่านี้ไม่ต้องการวัวเป็นตัวๆ แต่ต้องการชิ้นส่วนวัวที่ชำแหละแล้ว ซึ่งได้มีการศึกษาด้านศักยภาพโรงเชือด จากโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่ชุมพรแล้ว สามารถเชือดวัวได้ 200 ตัวต่อวัน ส่วนที่บราซิล ก็มีโรงเชือดที่มีศักยภาพในการเชือดวัวหลายหมื่นตัวต่อวัน ซึ่งเราก็อาจจะสนับสนุนให้คนเลี้ยงวัวในประเทศไทย อาจจะสนับสนุนให้มีโรงเชือด และมีเทคโนโลยีในการที่จะเชือดและแยกชิ้นส่วนโดยต้องคำนึงเรื่องของศาสนาเป็นหลัก การเชือดต้องให้ถูกต้องด้วย
ส่วนการปราบปรามปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ มี 3 เรื่องหลัก เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กระทรวง Des ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติปิดบัญชีม้า ประสาน ปปง. ยึดทรัพย์ ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง Des ตระหนักถึงเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว/ โดยปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ จะมุ่งเน้นในการยึดทรัพย์ เนื่องจากผู้ค้ายาเสพติดกลัวการยึดทรัพย์ และลดขั้นตอนการโยกย้ายของกลาง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสังคมว่าจะไม่มียาเสพติดหลุดรอดจากกระบวนการทำลาย เมื่อพิสูจน์ทราบแล้วว่าของกลางเป็นยาเสพติดจะต้องทำลายให้เร็วที่สุด
ด้านทหารได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ว่าจะลดกำลังพลอย่างไร เพื่อให้เยาวชนมีสิทธิในการเลือกประกอบอาชีพ เรื่อง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ยืนยันว่าไม่เคยพูดถึงนโยบายยุบ กอ.รมน. ยืนยันว่าทุกองค์กรต้องมีความเปลี่ยนแปลงตามบริบทสังคม
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า อุปสรรคขณะนี้คือเวลาไม่พอทั้งการทำงานและการพักผ่อน เนื่องจากมีเรื่องให้บริหารจัดการ รัฐมนตรีทุกคนตอบสนองต่อนโยบายต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนโยบาย Quickwin เรื่องสำคัญอื่นๆ เช่น นโยบาย FTA ก็ต้องเร่งเจรจาให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น และข้าราชการ ระบุจะไม่มีการโยกย้ายอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องใหญ่ที่สุด คือเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน อะไรทำได้จะทำก่อน ทำอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่เหน็ดเหนื่อย เหนือสิ่งอื่นใดทุกภาคส่วนต้องเข้าใจก่อนว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี การกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งข้าราชการทุกภาคส่วนได้เดินหน้าทำงานกันอย่างเต็มที่ขอให้ทุกคนอดทนและรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน ซึ่งรัฐบาลเองก็จะดำเนินงานให้สัมฤทธิ์ผลและมีประสิทธิภาพ
ข่าว
20 ก.ย. 2567 15:44 117 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 15:41 78 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 14:02 106 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:58 140 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:23 120 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:22 100 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 13:19 104 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:36 136 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:34 129 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 11:30 154 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:48 136 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:13 145 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:10 123 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:04 131 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 10:01 204 views
ข่าว
20 ก.ย. 2567 09:50 164 views