การแข่งขันกรีฑาผู้สูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 22 ณ เมืองคาลร์ก ประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีประเทศในเอเชียเข้าร่วมแข่งขันกว่า 20 ประเทศและไทยส่งนักกีฬาลงชิงชัยทั้งหมด 52 คน และ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 66 เป็นวันแรกของการชิงชัย ซึ่งมีทัพนักกีฬาไทยลงแข่งขันทั้งสิ้น 25 คน

ในการแข่งขันวิ่ง 1500 เมตร ในรุ่นอายุ 80-84 ปี คุณยายลักษณา พระลับรักษา สามารถคว้าเหรียญทองมาได้ ด้วยสถิติ 12.39.12 นาที  และอีก 1 เหรียญทองที่ทัพนักวิ่งไทยทำได้คือ วิ่ง 1500 เมตร รุ่นอายุ 65-69 ปีหญิง บุญสิตา ศรีนพรัตน์ วิ่งเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองด้วยเวลา 7.10.79 นาที เหรียญเงินตกเป็นของ 2 มองโกเลีย และเหรียญทองแดง  จุรี ธรรมบูรณวิทย์ สถิติ 7.48.48 นาที 

ด้านการแข่งขันวิ่ง 1500 เมตร รุ่นอายุ 35-39 ปีชาย สิทธิพร สังข์ทอง ที่เปิดตัวออกมาได้ดีเกาะกลุ่มผู้นำกับนักวิ่งจากซาอุดิอาระเบีย และเจ้าภาพฟิปินส์ ผ่าน 400 เมตรแรกทั้ง 3 คนยังวิ่งเกาะกลุ่มจนเข้าโค้ง 200 เมตรสุดท้าย โมฮัมหมัด อ๊อธมาส เอสชอวร์ จากซาอุฯ เร่งสปีดฝีเท้าฉีกออกมาจากกลุ่ม โดยมี สิทธิพร วิ่งไล่ออกมา แต่ไล่ไม่ทัน ฮ๊อธมาส วิ่งเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองไปครอง  ด้วยเวลา 4.15.60 นาที เหรียญเงินตกเป็นของ สิทธิพร สถิติ 4.18.58 นาที และเหรียญทองแดง อาริส แอฟรา จากฟิลิปินส์ สถิติ 4.24.64 นาที 

ในขณะที่ณัฐพล นามกันหา อดีตนักรีฑาทีมชาติไทยลงแข่งขัน กระโดดไกล รุ่นอายุ  50-54 ปีชาย ณัฐพล กระโดดได้ 5.45 เมตรคว้าเหรียญทองแดงมาครอง 
ขณะที่ทุ่มน้ำหนักรุ่นอายุ 45-49 ปีหญิง ไทยส่ง“ แชมป์เก่า” สายเนตร ศรีสมพงษ์ อดีตนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย ลงป้องกันแชป์กัยคู่ปรับเก่าจากจีน และ อิหร่าน โดยนักกีฬาจะได้สิทธิ์ทุ่มคนละ 4 ครั้ง ปรากฏว่า ครั้งแรกที่ ทุ่ม สายเนตร ทำได้ 10 เมตรกว่า ตามาด้วยนักกีฬาจากจีน  ยู ฮอง วู  ที่ทุ่มได้ 10 เมตรกว่าเช่นกัน  

การทุ่มครั้งที่ 2 ของสายเนตร จึงต้องใส่พลังทั้งหมดที่มีเพื่อทุ่มให้ไกลที่สุด และการทุ่มในรอบที่ 2 สายเนตรทุ่มได้ 11.11 เมตร ในขณะที่จีนก็พยายามจะทุ่มให้ไกลกว่า สายเนตร แต่ทำไม่ได้ จบการแข่งขันทุ่มครบ 4  ครั้ง เหรียญทองตกเป็นของ สายเนตร สถิติ 11.11 เมตร เหรียญเงินเป็นของ  ยู ฮอง วู จากจีน 10.07 เมตร และเหรียญทองแดง เป็นของ ซาร่า จากอิหร่าน สถิติ 9.91 เมตร