กรมควบคุมมลพิษ เตือนเฝ้าระวังฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงวันที่ 9-13 พฤศจิกายน 2566 ด้านกทม.ได้เตรียมรับมือในปัญหาฝุ่นควัน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แจกหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น  ส่วนเด็กเล็กได้จัดทำพื้นที่ปลอดฝุ่น (Safe Zone) ในศูนย์เด็กเล็ก 11 แห่ง

กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มสูงในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม ปทุมธานี และนนทบุรี เนื่องด้วยเป็นช่วงปลายฤดูฝน ทำให้ปริมาณฝนขาดช่วง มวลอากาศเย็นเริ่มเข้ามาปกคลุมในพื้นที่ประกอบกับลมอ่อน ส่งผลให้การระบายฝุ่นละอองในพื้นที่ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมในพื้นที่ได้

ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มีฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐานควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ได้ทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน Air4thai และ AirBKK

ด้านศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานผลการตรวจวัด PM2.5 ในช่วงเช้าวันนี้ ตรวจวัดได้ 11.6-32.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร  ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 21.5 มคก./ลบ.ม.

ค่า PM2.5 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีที่มีการตรวจวัด  แต่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

ด้าน กทม. ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้แล้ว โดย สำนักการแพทย์ ดำเนินการเปิดศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีฝุ่นละออง PM 2.5 เกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)  จึงเปิดคลินิกมลพิษทางอากาศในโรงพยาบาลสังกัด กทม.  

ส่วนความคืบหน้าการจัดทำห้องปลอดฝุ่นในโรงเรียนสังกัดกทม. ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และโรงพยาบาลในสังกัดกทม. เพื่อสร้างความเข้มแข็งและดูแลสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง  สำนักการแพทย์ ดำเนินการจัดห้องปลอดฝุ่น พัดลม และแผ่นกรองอากาศ เพื่อจัดทำพื้นที่ปลอดฝุ่น (Safe Zone) ภายในศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่คู่นมแม่ของโรงพยาบาลในสังกัดฯ ทั้ง 11 แห่ง พร้อมแจกหน้ากากอนามัย และให้คำแนะนำในการป้องกัน ดูแลสุขภาพในช่วงฝุ่นหนาแน่น สำหรับกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง