นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้าการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท., นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา และคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ร่วมประชุม ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)

นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การติดตามความคืบหน้าการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ในวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ได้ให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งในวันนี้ได้รับฟังรายงานความคืบหน้าในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ซึ่งยังติดปัญหาของเรื่องงบประมาณที่จะต้องติดตามในส่วนที่เหลือ และเนื่องด้วยรัฐบาลพึ่งเข้ามาทำงานในช่วงคาบเกี่ยวตรงนี้ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้พยายามเร่งรัดให้การดำเนินงานในส่วนต่างๆ มีความรวดเร็วและพร้อมมากที่สุดในการจัดการแข่งขันดังกล่าว  การเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ของประเทศไทย นายกรัฐมนตรี ให้นโยบายว่าเราต้องดำเนินการจัดการแข่งขันรายการเอเชียนอินดอร์และมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ เกิดขึ้นให้ได้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสนับสนุน การดำเนินงานต่างๆ  ของ กกท. อีกด้วย

ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ในส่วนของด้านเทคนิคกีฬา ได้มีการประชุมสรุปทั้งหมดแล้ว และดำเนินการจัดทำคู่มือการแข่งขันออกมาเป็นที่เรียบร้อย จะแข่งขันทั้งหมด 37 ชนิดกีฬา ชิงชัย 359 เหรียญทอง และมีอีก 1 กีฬาสาธิต คือเทคบอล ชิง 5 ทอง สนามแข่งขันจะใช้กรุงเทพฯ 12 สนาม และชลบุรี อีก 11 สนามแข่งขัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะส่งให้ชาติต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการลงทะเบียนนักกีฬาทั้งจำนวนและรายชื่อต่อไป ซึ่งเราจะปิดการลงทะเบียนนักกีฬาวันสุดท้าย ในวันที่ 15 มกราคม 2567 ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป จะมีการประชุมความพร้อมด้านต่างๆ กับสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) รวมถึงผู้แทนจากสหพันธ์กีฬาต่างๆ จะเดินทางมาตรวจสนามที่ประเทศไทย

จากนั้น ที่ปรึกษา รมต. และผู้ว่าการ กกท. ได้นำทีมเดินทางไปตรวจความพร้อมของศูนย์อำนวยการการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ ที่อยู่ชั้น 6 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. รวมถึงติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมอาคารอินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ที่จะใช้เป็นสนามหลักสำหรับพิธีเปิดและปิดการแข่งขันฯ ดังกล่าว

ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า การซ่อมแซมอินดอร์สเตเดียม นั้น เป็นไปตามแผนงานทั้งหมด ซึ่งตามกำหนดการจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม นี้ ก็จะใช้สำหรับการแข่งขันได้ แต่ต้องมีการตรวจสอบเรื่องของความปลอดภัย จากสภาวิศวกรรมและจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง กรุงเทพมหานครฯ (กทม.) ด้วยเพราะถ้ายังไม่มีการยืนยันจากหน่วยงานภายนอก เราก็มีแผนสำรองหากใช้อินดอร์สเตเดียมไม่ได้ ก็สามารถใช้สนามบางกอกอารีน่า และสถานที่อื่นๆ แทนได้ เพราะว่า กทม. เป็นเจ้าภาพร่วมในครั้งนี้ด้วย 

จากนั้น ที่ปรึกษา รมต. และผู้ว่าการ กกท. ได้นำทีมสำรวจความพร้อมของราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนที่ทีมชาติไทยจะลงแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในวันที่ 16 พฤศจิกายน นี้ 

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรื่องของสภาพสนามมีความสมบูรณ์เรียบร้อยดี มีการฟื้นฟูปรับปรุงเป็นอย่างดีแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้มีการกำชับผ่าน ผู้ว่าการ และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสนามมาเป็นอย่างดี ในส่วนของตารางการใช้สนามสำหรับทีมชาติไทย หลังจากที่ทราบกำหนดการแข่งขันต่างๆ มีการวางแผนเว้นระยะให้สอดคล้องกับโปรแกรมการแข่งขันและไม่ทับซ้อนหรือกระทบกับโปรแกรมการแข่งขัน ดังนั้น การปรับปรุงสนาม มีกรอบระยะเวลาให้ทำตามที่กำหนดอยู่แล้ว”