ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ยกการแข่งขันโมโตจีพี รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ประสบความสำเร็จในหลายมิติ และมียอดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี สนามที่ 17 รายการโออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ ปรีซ์ เพิ่งจะปิดฉากการแข่งขันไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม โดยแชมป์รุ่นโมโตจีพี ในปีนี้ ตกเป็นของ ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดชาวสเปน จากทีมพรามัก เรซซิง

ส่วนฝั่งนักแข่งไทย ก้อง – สมเกียรติ จันทรา จากอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย คว้าโพเดียม โฮมเรซ ครั้งแรก หลังเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ในรุ่นโมโตทู
โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวขอบคุณพันธมิตรทุกภาคส่วนที่ร่วมกันจัดการแข่งขันขึ้นมา ทำให้ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ประสบความสำเร็จสูงสุดในหลายมิติ แม้ว่าในช่วงแรกอาจมีความกังวลเล็กน้อยในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ที่ล่าช้าไป แต่ปรากฏว่าในปีนี้ได้รับการตอบรับจากชาวไทยและต่างชาติดีกว่าเมื่อปีก่อน จำนวนผู้ชมจะขึ้นมาแตะหลัก 180,000 คน มากกว่าปีที่แล้วราว 1,000 คน

โดยเป็นที่น่ายินดีว่าเป็นชาวต่างชาติมากขึ้นถึง 11 เปอร์เซ็นต์ ที่จำนวน 52,000 คน เพิ่มมากกว่าปีที่แล้วที่มี 46,000 คน แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติมากขึ้น

ด้านกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลสำรวจเบื้องต้น ของการแข่งขันรถจักรยานยนต์ Moto GP สนามที่ 17 โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม 2566 พบว่า ในช่วงระยะเวลา 3 วัน มีผู้เข้าร่วมงาน จำนวน 179,811 คน สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดอื่น ๆ ประมาณ 4,493 ล้านบาท 

ซึ่งเป็นการใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมงาน ประมาณ 3,783 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้เข้าร่วมงานชาวไทย ที่เดินทางมาร่วมงานประเภทพักค้างและท่องเที่ยว มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย คนละ 14,831 บาท ส่วนชาวต่างชาติ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 27,503 บาท ทั้งนี้ ยังไม่ได้รวมรายได้จากนักท่องเที่ยวภายในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ไม่ได้เข้าร่วมงาน

การแข่งขันในครั้งนี้ ได้รับงบประมาณจากภาครัฐและเงินสนับสนุนจากภาคเอกชน ประมาณ 710 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงาน มากถึง 6,426 ตำแหน่ง ซึ่งเทียบเท่ากับการจ้างงานในระยะเวลา 1 ปี

ขณะที่การถ่ายทอดสดการแข่งขันรถจักรยานยนต์รุ่น โมโตทู และโมโตจีพี ในครั้งนี้ มีผู้ชมจากทั่วโลก กว่า 800 ล้านคน นับเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ เพราะนอกจากจะได้แสดงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ทั่วโลกได้รับรู้แล้ว ยังแสดงถึงศักยภาพของจังหวัดบุรีรัมย์ ในการเป็นเมืองกีฬามาตรฐานโลกอย่างแท้จริง

สำหรับการสำรวจครั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สำนักงานสถิติจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทำการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมงาน ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม 2566 ไม่น้อยกว่า 1,500 ราย