วันที่ 20 เมษายน 2568
17 ก.ย. 2567 16:10 | 3450 view
@pracha
เช็คเลย 'กลุ่มเปราะบาง-คนพิการ'เงินดิจิทัลฯเข้าบัญชีวันไหน
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ จำนวน 14.55 ล้านคน คนละ 10,000 บาท โดยอนุมัติงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการ ในวงเงินไม่เกิน 145,552 ล้านบาท
"รัฐบาลมีความจำเป็นต้องรีบเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนนี้ และจะเร่งโอนเงินให้เสร็จในเดือนกันยายน 2567 ทันที" นายพิชัย กล่าว
ทั้งนี้ ในการโอนเงินลงไปยังผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ จำนวน 14.55 ล้านคน คนละ 10,000 บาทครั้งนี้ ด้วยระบบการเงินที่มีขีดความสามารถในการจ่ายเงินลงไปให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิมีจำกัด เพียงวันละประมาณ 4 ล้านคน กระทรวงการคลัง จึงต้องแบ่งการจ่ายเงินเป็นงวดๆ ดังนี้
- วันที่ 25 กันยายน 2567 โอนเงินให้คนพิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนหลักสุดท้าย เลข 0 จำนวน 3.28 ล้านคน
- วันที่ 26 กันยายน 2567 โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนหลักสุดท้าย เลข 1-3 จำนวน 4.51 ล้านคน
- วันที่ 27 กันยายน 2567 โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนหลักสุดท้าย เลข 4-7 จำนวน 4.51 ล้านคน
- วันที่ 30 กันยายน 2567 โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนหลักสุดท้าย เลข 8-9 จำนวน 2.26 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิในกลุ่มแรกรีบผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารต่างๆ เพื่อช่วยให้การจ่ายเข้าบัญชีทำได้ทันทีตามวันที่ระบุ หากใครที่ตกหล่น หรือบัญชีพร้อมเพย์มีปัญหา จะโอนซ้ำอีก 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2567, ครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 และครั้งที่ 3 ภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2567
ส่วนแหล่งเงินที่จะใช้ในโครงการ วงเงินไม่เกิน 145,552 ล้านบาท นั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน นั่นคือ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปีงบประมาณ 2567 งบกลางรายการ ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ 122,000 ล้านบาท และงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 23,552 ล้านบาท
นายพิชัย ยังกล่าวถึงการดำเนินการในเฟส 2 สำหรับกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งมีจำนวนประมาณ 36 ล้านคน ว่า ก็คงต้องมี เพราะมีคนลงทะเบียนเข้ามาแล้ว ซึ่งในระยะถัดไปรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาหนึ่งชุด โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณที่มีอยู่ รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ที่จะต้องเดินหน้าต่อไปด้วย
"จากนี้ไปจะมีคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะมานั่งดูอย่างรอบคอบ ซึ่งจะดูในหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งจะจ่ายเงินอย่างไร จ่ายเมื่อไหร่ จ่ายด้วยวิธีไหน ก็คงต้องมานั่งดูกันอีกที" นายพิชัย ระบุ
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า สำหรับการจ่ายเงินลงไปให้กับกลุ่มคนพิการ ไม่ได้มีกรอบกำหนดเอาไว้ทั้ง อายุ รายได้ หรือเงินฝาก ดังนั้น ถ้าใครที่เป็นผู้พิการที่ลงทะเบียนมีบัตรผู้พิการเอาไว้กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แล้ว 2.15 ล้านราย และได้รับเงินช่วยเหลือประจำทุกเดือนอยู่แล้ว คนกลุ่มนี้จะได้รับเงิน 10,000 บาท ครบทุกคน
ทั้งนี้ ในส่วนของการเติมเงินผ่านเงินดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) 10,000 บาท กระทรวงการคลัง ยืนยันว่าจะยังเดินหน้าต่อไป เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังช่วยเพิ่มมิติในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลยังเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางด้านการแข่งขันในระยะยาวด้วย
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลเห็นว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ มีความจำเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรักษาโมเมนตัมของเศรษฐกิจ ซึ่งเงินก้อนนี้จำนวน 1.45 แสนล้านบาท จะเป็นตัวกระตุ้นในช่วงนี้ต่อเนื่องถึงปลายปี 2567 และจะเป็นแรงส่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อไปด้วย
ส่วนกลุ่มผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะเปิดลงทะเบียนอีกหรือไม่นั้น นายเผ่าภูมิ ยืนยันว่า รัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนต่อไปหลังจากได้โอนเงินกับกลุ่มแรก คือ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าเร็วๆ นี้จะแจ้งไทม์ไลน์ที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ธนาคารของรัฐมีความพร้อมในการรองรับการลงทะเบียน แต่ขอเลื่อนออกไปก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในกระบวนการทำงานกับกลุ่มแรกที่เป็นกลุ่มเปราะบาง
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การผูกพร้อมเพย์นั้น ผู้มีสิทธิ์ที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ไม่จำเป็นต้องไปเปิดบัญชีใหม่ สามารถผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคารของตัวเองทุกธนาคารที่มีอยู่เดิมได้
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ประเมินว่าการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ จะมีเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 145,552.40 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.35% ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ
ข่าว
19 เม.ย. 2568 16:46 159 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 16:42 118 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 16:37 73 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 15:04 119 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 14:08 145 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 14:01 169 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:49 144 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:42 152 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:40 126 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:38 220 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 13:36 116 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:47 182 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:43 130 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:32 185 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:27 154 views
ข่าว
19 เม.ย. 2568 11:22 133 views