วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567
12 ก.ย. 2567 15:42 | 590 view
@pracha
เศรษฐกิจไทยยังโงหัวไม่ขึ้น!! หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ส.ค.67 อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน กังวล ศก.ฟื้นตัวช้า-มาตรการกระตุ้นของรัฐบาลใหม่ไม่ชัดเจน คาดหากดิจิทัลวอลเล็ตทันไตรมาส 4/67 หนุนปีนี้โต 2.6-2.8%
12 ก.ย.67 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนสิงหาคม 2567 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงชะลอตัวลงและฟื้นตัวช้า เพราะยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนของรัฐบาลใหม่ ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และผู้บริโภคยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลางและสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังคงยืดเยื้ออาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวล่าช้าของเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 50.2 53.9 และ 65.6 ตามลำดับ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนกรกฎาคม ที่อยู่ในระดับ 51.3 54.9 และ 66.8 ตามลำดับ การที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตเพราะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ราคาพลังงานและค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง
นายธนวรรธ์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวลดลงจากระดับ 57.7 เป็น 56.5 เป็นการปรับตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมาการที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้าและค่าครองชีพสูง ตลอดจนสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน กับอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซาที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาในเชิงลบต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก ธุรกิจโดยทั่วไป และการจ้างงานในอนาคต โดยยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากระดับ 41.5 เป็น 40.4 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวลดลงจากระดับ 65.4 มาอยู่ที่ระดับ 64.3 การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6ทุกรายการ แสดงว่า ผู้บริโภคเริ่มไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ แม้ว่าสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันเริ่มมีเสถียรภาพในมุมมองของผู้บริโภค เนื่องจากประชาชนยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ในอนาคตอันใกล้ หากรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทในปลายไตรมาสที่ 3 ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.6-2.8% ในปีนี้ แต่ถ้าไม่มีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เพียง 2.4-2.6%
ข่าว
22 พ.ย. 2567 16:42 205 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 14:47 121 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 14:45 128 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 14:42 130 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 14:39 124 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 14:35 125 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 13:50 121 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 12:09 177 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 11:53 136 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 11:36 141 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 10:57 143 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 10:20 170 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:52 193 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:31 176 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:25 168 views
ข่าว
22 พ.ย. 2567 09:22 172 views