แรงงานไทยกลับจากไปทำงานที่อิสราเอล ชาวจังหวัดนครราชสีมา ยื่นเอกสารขอรับค่าจ้างที่นายจ้างค้างจ่าย และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ภายหลังเดินทางกลับภูมิลำเนาก่อนสิ้นสุดสัญญาจ้าง จากความไม่สงบตะวันออกลาง 

วันที่ 24 ต.ค.66 - ที่สำนักงานแรงงานจังหวัดนครราชสีมา ถนนสืบสิริ อำเภอเมืองนครราชสีมา  วันนี้พบว่ามีแรงงานไทย ชาวจังหวัดนครราชสีมาที่เดินทางกลับภูมิลำเนา จากการสู้รบที่ประเทศอิสราเอล  ได้เดินทางมายื่นเอกสารหลักฐาน ขอรับสิทธิประโยชน์ จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศได้เดินทางกลับประเทศไทยก่อนสิ้นสุดการเป็นสมาชิกกองทุนเนื่องจากภัยสงคราม ซึ่งจังหวัดนครราชสีมามีจำนวนแรงงานกลับจากอิสราเอล 165 คนจากทั้งหมดที่ไปทำงานอิสราเอล 165  คน  

วันนี้มีแรงงานนำเอกสารหลักฐานมายื่นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยนาย อาทิตย์  ด่านลำมะจาก อายุ  26 ปี หนึ่งในแรงงานไทยที่ไปทำงานที่อิสราเอลและเดินทางกลับบ้าน อำเภอประทาย  เล่าว่าตนไปทำงานอิสราเอล ทำงานที่ฟาร์มวัวนม อยู่ในพื้นที่ภาคกลางตอนล่างของอิสราเอล  ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่มีการสู้รบประมาณ 20 กิโลเมตร   ซึ่งจากความไม่สงบที่เกิดขึ้นทำให้ตนไม่มั่นใจในความปลอดภัย จึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับภูมิลำเนา และในวันนี้ตนได้มาเขียนคำร้อง ขอรับเงินค่าจ้างที่นายจ้างค้างจ่ายเพื่อให้ทางการติดตามขอรับค่าจ้างเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการครองชีพ   และตนจะไม่กลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก  อย่างไรก็ตามถ้าหากมีโอกาสไปทำงานประเทศอื่นที่อยู่ในภาวะปกติตนก็พร้อมที่จะไปทำงาน

ขณะที่ นางน้อมฤทัย  ด่านลำมะจาก  มารดานายอาทิตย์  แรงงานไทยที่มายื่นเอกสาร เล่าว่า ตนดีใจมากที่ลูกชายกลับบ้านเกิด ซึ่งตนไม่กล้าดูข่าวสารใด ๆ เนื่องจากมีความกังวล  นอกจากนั้นก่อนที่ลูกชายจะไปทำงานอิสราเอลได้กู้ยืมเงินญาติพี่น้องและกู้เงิน ธ.ก.ส. เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางซึ่งล่าสุดยังมีหนี้คงเหลือกับ ธ.ก.ส. ประมาณ 100,000  บาทและตนจึงอยากวอนให้รัฐบาลมีการพักชำระหนี้เพื่อได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย เนื่องจากลูกชายกลับบ้านแล้ว