วิปรบ.ขอหั่นเวลาถก ‘นโยบายรัฐบาลอิ๊งค์1’ นัดคุยวิป 3 ฝ่ายวันนี้

 นายวิสุทธ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล )เปิดเผยว่า วันที่ 9 ก.ย.จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่ายคือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา ในเวลา 10.00 น. เพื่อหารือถึงกรอบเวลาการอภิปราย การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี(ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ เวลาอภิปรายลดลงจากเดิมเคยได้ 31 ชั่วโมง ในการอภิปราย 2 วัน หวังว่าที่ประชุมจะเห็นด้วยว่าเป็นระยะเวลานานไป เพราะส่วนใหญ่เป็นนโยบายเดิมสานต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และเป็นนโยบายเดิม มีเรื่องใหม่เข้ามาบ้าง จะเจรจาปรับลดเวลาอภิปรายลงเพื่อให้ครม.เข้าไปปฏิบัติหน้าที่โดยเร็วในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายค้านและวุฒิสภา

“ที่เคยเจรจากับฝ่ายค้านไปบ้างแล้วอาจจะปรับลงมาจากที่เคยได้ไป 14 ชั่วโมง อาจจะปรับเป็น 10 ชั่วโมงหรือ 12 ชั่วโมง เพื่อเร่งรัดการแถลงนโยบายให้เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์และรัฐมนตรีจะได้มีพลังและเวลาไปดูแลปัญหาน้ำท่วมและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะต้องไปรีบทำ” นายวิสุทธ์กล่าว

นายวิสุทธ์ กล่าวว่า การประชุมทั้ง 2 วัน จะเริ่มในเวลา 09.00 น. และวันที่ 9 ก.ย.หลังจากตกลงเวลากันได้ จะเป็นการแบ่งเวลาให้ 3 ฝ่าย จะต้องแบ่งเวลาให้เหมาะสม เชื่อมั่นว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านตั้งเป้าการอภิปรายครั้งนี้ว่าจะดุเดือดเข้มข้น ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่มีดุเดือด เพราะครั้งนี้เป็นการอภิปรายแถลงนโยบาย ไม่ใช่การอภิปรายงบประมาณ หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อถามว่าทางฝ่ายค้านจะทวงสัญญาช่วงเลือกตั้งและตรวจการบ้าน 1 ปีด้วย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า หนึ่งปีถ้าทำได้หมดก็ประหลาดแล้ว ตอนเข้ามาเป็นช่วงงบปี 2567 ขณะนี้ก็ยังอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง ทุกคนก็ทราบว่าเป็นงบประมาณรัฐบาลเก่าเป็นคนตั้งไว้ ส่วนงบประมาณปี 2568 ก็กำลังผ่านเข้าไปยังวุฒิสภา จะทำให้หนึ่งปีทำครบสัญญาทุกอย่างก็แปลกประหลาดไปแล้ว เพราะยังมีเวลาอีกตั้ง3 ปี

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ยืนยันทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ไม่น่ากังวลอะไร และเป็นธรรมดาของฝ่ายค้าน มีหน้าที่อภิปรายติเตียน ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจง ส่วนเอกสารเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลจะแถลง คาดว่าจะถึงสมาชิกวันที่ 9 ก.ย.และ10 ก.ย. แต่เบื้องต้นมีไฟล์เอกสารเผยแพร่ออกมาแล้ว คาดว่าสมาชิกรัฐสภาจะได้รับทราบและศึกษาในเบื้องต้นแล้ว