เปิดใจ “เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์” หลังป่วยหนักวูบและหยุดหายใจ แพทย์ช่วยชีวิตและรักษาตัวในโรงพยาบาล 3 เดือน ก่อนจะกลับออกมาใช้ชีวิตกับครอบครัวตามเดิม

หลังจากที่ “เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์” พระเอกดัง วูบหมดสติกลางงานบิ๊กดีเบตเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันขั้นรุนแรง อาการโคม่า หลับไป 8 วัน และฟื้นขึ้นมาต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 3 เดือน ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้

โดยวันก่อน “เอส” ที่หายดีและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อัปเดตอาการผ่านทางต้นสังกัดว่า “เรื่องสุขภาพ มีฝังเครื่องเอาไว้ที่หัวใจ เผื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นมาในอนาคต เครื่องนี้สามารถปั๊มช่วยได้ให้ไม่มีข้อผิดพลาด ไม่มีข้ออันตราย

และสิ่งที่คุณหมอให้ทำคือการเล่นเกมฝึกสมอง เกมวางแผน รวมถึงคุณหมอก็บอกว่าให้พยายามเจอเพื่อนๆ ในอดีต เจอคนรู้จักเพื่อคุย สมองก็จะคิดตามและคิดได้ พอเข้ามาที่ช่องก็มีความ อ่อ! ร้านนี้เราเคยไป คนนี้เราเคยเจอ หมอพูดถูกจริงๆ รวมถึงตอนนี้สามารถออกกำลังกายได้แล้ว หลังฝังเครื่องที่หัวใจจนสามารถเริ่มยกแขนได้ กลับมาบ้านวันแรกต่อยมวยไทยเลย อีกสิ่งนึงที่ช่วยได้คือธรรมะ ส่วนงานละคร งานพิธีกร ก็อยากกลับมาทำอีก รอพร้อมกว่านี้ก่อน”

และเมื่อผู้สื่อข่าว มีโอกาสได้เจอกับ “เอส กันตพงศ์” ที่มาร่วมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพ ก็ได้พูดคุยกับพระเอกหนุ่มเพิ่มเติม เจ้าตัวย้อนเล่าอาการแรกหลังฟื้นกลับมาว่า

 “ญาติๆ ถามทุกคนเลยว่าเกิดเหตุ เกิดอะไรขึ้นบ้างก็ยังจำไม่ได้ ดูไอจี ดูโพสต์ ญาติๆ ถามว่าจำได้ไหมว่าวันเกิดเหตุ ผมก็จำไม่ได้เลยว่าวันนั้นเกิดเหตุยังไง ตอนนี้ก็ยังจำไม่ได้ว่าเกิดเหตุยังไง ซึ่งผมก็ยังแปลกใจ แต่ว่าสิ่งที่ค่อนข้างสงสัยเหมือนกันตอนอยู่โรงพยาบาลสิ่งแรกที่กลับมาคือจำบทสวดมนต์ ปกติผมเป็นคนสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิทุกเช้าและก่อนนอน และเราเป็นคนไทยต้องพูดภาษาไทยใช่ไหม แต่พอผมเริ่มฟื้นขึ้นมาพูดแต่ภาษาอังกฤษ แล้วก็จะสวดมนต์ตลอด จำบทสวดมนต์ได้ทั้งหมด นั่งสมาธิ

คือพอสมองเราหยุดทำงานไปความจำทกอย่างก็จะหายไปเกือบทั้งหมด แต่ผมก็ยังงงว่าทำไมจำบทสวดมนต์ได้ ชื่อเพื่อนก็ยังจำไม่ได้ เพื่อนมาเยี่ยมจำได้ว่าคือเพื่อนแต่ลืมชื่อ พอทุกครั้งที่สวดมนต์ นั่งสมาธิปุ๊ปเรื่องก็จะกลับมาๆ อย่างรหัสมือถือผมตั้งยาก ยังไปหาหมอเลยว่าทำยังไงให้จำรหัสมือถือได้ คุณหมอก็บอกว่าต้องใช้เวลาหน่อย แต่เรื่องอื่นค่อนข้างกลับมาเรื่อยๆ ช่วงแรกๆ จะเช็คร่างกายสัปดาห์ละครั้ง ตอนนี้ทุก 3 เดือนนี้ โดยรวมร่างกายปกติ”