หลังเกมการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ เกมที่ทีมช้างศึกทีมฟุตบอลทีมชาติไทย บุกเสมอกับ ทีมชาติเอสโตเนีย ไป 1-1 ส่งท้ายการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ เดือนตุลาคม

โดยหลังเกม มาโน โพลกิง ผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลทีมชาติไทย พอใจกับผลงานหลังลูกทีมสู้อย่างเต็มที่ จนได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจ

“วันนี้ต้องชื่นชมนักเตะทุกคน หลังจากที่เราแพ้จอร์เจีย เราได้คุยกันว่าเราต้องการกลับมาให้ได้ ในการทำผลงานให้ดีเพื่อแฟนบอลชาวไทย มีนักเตะหน้าใหม่หลายคน ที่เข้ามาเล่นในทีมชุดนี้ ซึ่งต้องชื่นชมที่ทำให้เราภูมิใจ ในการใส่เสื้อทีมชาติไทยลงเล่น และทุกคนคงภูมิใจครั้งนี้ ทุกคนก็สู้เต็มที่ แล้วผลก็ออกมาอย่างที่เราเห็น ก็ได้ผล ดีกว่าเกมที่แล้ว แต่ก็โอเคสำหรับเกมนี้” มาโน กล่าว

“ครึ่งแรกเราทำได้ดี เราสู้กับเอสโตเนียได้ดี แต่ครึ่งหลังเอสโตเนีย เปลี่ยนนักเตะมาสามคนก็มีความสดเข้ามา ทำให้เราเจองานที่ยากในช่วงสิบนาทีแรก เราเลยตัดสินใจเปลี่ยนนักเตะอีกสามคน เพื่อเอาความสดลงมาสู้ และกลับมาสู่เกมได้ ถือว่าทำได้สูสีในครึ่งหลัง”

“การที่เรามาจากสภาพอากาศที่ร้อน แล้วมาเจอ 4-5 องศา ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเกมแรก เรามีเวลาแค่วันเดียวและลงแข่งเลย และต้องเจอกับทีมที่แข็งแกร่ง ซึ่งปรับตัวยังไม่ได้ พอเรามาเกมนี้ เรามีเวลาหลายวัน ในการซ้อมปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ นักเตะมีความเคยชินมากขึ้น ก็ต้องขอชื่นชม และดีใจกับนักเตะที่ทำผลงานได้น่าพอใจ ทุกคนสู้และทุ่มเทเกินร้อย”

ซึ่งจากผลงานของทีมชาติไทย ใน 2 เกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา เมื่อนำมาคำนวณคะแนนอันดับโลกในฟีฟ่าแรงค์กิ้ง จากเกมที่แพ้จอร์เจีย 0-8 ทำให้ทีมชาติไทยมีแต้มเสีย -3.89 คะแนน ส่วนเกมเสมอกับเอสโตเนีย มีแต้มเสีย -0.17 คะแนน รวม 2 นัดเสียไป -4.06 คะแนน จาก 1181.21 ลดเป็น 1177.15 คะแนน ยังทำให้ทีมชาติไทยรั้งอันดับ 112 ของโลกอยู่ตามเดิมอย่างไม่เป็นทางการ

สำหรับ โปรแกรมต่อไปของทีมชาติไทย เตรียมทำศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซี นัดแรก พบกับ ทีมชาติจีน ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 16 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น. ก่อนจะบุกไปเยือน สิงคโปร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ต่อไป