อัยการพิเศษฟื้นคดีทรัมป์ ล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดี

วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส) - อัยการพิเศษรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ฟื้นคดี โดนัลด์ ทรัมป์ล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 ใหม่หลังนำข้อหาเก่าไปปรับแก้ใหม่ ไม่ให้ขัดต่อคำตัดสินของศาลฎีกาสหรัฐฯ ที่ตัดสินให้ทรัมป์มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในฐานะประธานาธิบดี

แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ฟื้นคดีฟ้องร้อง โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ พรรครีพับลิกันใหม่อีกครั้ง ในคดีพยายามล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ที่ทรัมป์พ่ายแพ้ต่อประธานาธิบดี โจ ไบเดน โดยได้ปรับแก้ข้อหาของทรัมป์ครั้งใหม่นี้ให้แคบลง และไม่ให้ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลฎีกาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ได้วินิจฉัยว่า ผู้ที่เป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีเอกสิทธิ์คุ้มครองอย่างกว้างขวางไม่ต้องถูกดำเนินคดีทางอาญา และทรัมป์ไม่สามารถถูกดำเนินคดีได้ในการกระทำที่เขาได้กระทำภายใต้อำนาจประธานาธิบดีของเขาตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ คำวินิจฉัยของศาลดังกล่าว ส่งผลให้ทรัมป์ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ต้องถูกดำเนินคดีจากคดีล้มผลเลือกตั้ง เนื่องจากคดีเกิดขึ้นในขณะที่เขายังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่

สำหรับการตั้งข้อหาครั้งใหม่ของอัยการพิเศษรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต่อทรัมป์ในครั้งนี้ ยังคงเหมือนกับการตั้งข้อหาครั้งแรกคือ กล่าวหาทรัมป์สมรู้ร่วมคิดแบบหลายชั้นเพื่อขัดขวางการรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 ที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่ประธานาธิบดีไบเดน

สิ่งที่ยังคงเดิมในการฟื้นคดีครั้งใหม่นี้คือ ทรัมป์ยังคงถูกกล่าวหาทั้งหมด 4 ข้อหา แต่เปลี่ยนไปเน้นที่บทบาทของทรัมป์ในฐานะเป็น “นักการเมือง” ในฐานะเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ไม่ใช่ในฐานะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น ส่วนสิ่งที่ถูกตัดออกไปคือ ไม่มีการกล่าวหาทรัมป์กดดันกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพื่อให้พลิกผลเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เขาพ่ายแพ้อีก การตัดข้อหานี้ทิ้งไป เพื่อมิให้ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลฎีกาสหรัฐฯ วันที่ 1 กรกฎาคมดังกล่าว ที่วินิจฉัยไปแล้วว่า ทรัมป์ไม่อาจถูกดำเนินคดีจากการกระทำนี้ ซึ่งเขากระทำในขณะที่ยังมีอำนาจในฐานะประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญ

ด้านโฆษกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า คดีที่ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาครั้งใหม่นี้ได้เสนอต่อคณะลูกขุนใหญ่คณะใหม่แล้ว เป็นคณะลูกขุนใหม่ที่ไม่เคยได้เห็นหลักฐานที่มาจากคดีนี้มาก่อน

ข้อกล่าวหาใหม่หลังถูกอัยการปรับแก้นี้ตั้งอยู่บนคำให้การและหลักฐานจากพยานที่อยู่นอกรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่นคำให้การของอดีตประธานสภารัฐแอริโซนา ซึ่งอัยการระบุในคำฟ้องว่า ถูกกดดันจากทรัมป์และผู้สมรู้ร่วมคิดร่วม ให้เรียกประชุมสภารัฐแอริโซนานัดพิเศษ เพื่อให้พิจารณาว่ามีการโกงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020