ไบเดนย้ำ กำจัดฮามาสให้สิ้นซาก UN เตือนโรงพยาบาลกาซาดูแลผู้ป่วยได้อีกแค่ 24 ชม.

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์รายการ 60 นาที ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส โดยยืนยันว่า ต้องทำการกำจัดกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก และต้องมีหนทางไปสู่การตั้งรัฐปาเลสไตน์

ไบเดนยังได้เตือนอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ว่าอย่าเข้าไปเกี่ยวข้อง และทำให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้รุนแรงมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือต้องยุติความโหดร้าย และจัดการกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผู้นำสหรัฐยังประกาศด้วยว่า เขาจะทำทุกสิ่งภายในอำนาจที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือตัวประกันชาวสหรัฐที่ยังมีชีวิตอยู่ และทำให้พวกเขาได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า มีพลเมืองสหรัฐสูญหาย 13 คน ซึ่งเชื่อว่าพวกเขาน่าจะถูกฮามาสจับเป็นตัวประกัน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ไบเดนกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะเดินเยือนอิสราเอลด้วยตนเองในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ขณะนี้แผนการดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแต่อย่างใด

ล่าสุดสำนักงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติออกมาเตือนว่า โรงพยาบาลในฉนวนกาซายังเหลือเชื้อเพลิงสำรองเพียงพอที่จะทำงานต่อไปอีกเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น และการปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองจะทำให้ชีวิตของผู้ป่วยหลายพันคนตกอยู่ในความเสี่ยง

ด้านแพทย์จากองค์กรแพทย์ไร้พรมแดนที่ทำงานในฉนวนกาซาเตือนว่า เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลไม่มีอุปกรณ์เพียงพอที่จะช่วยเหลือผู้คนแล้ว หลังจากที่พวกเขาต้องใช้เวชภัณฑ์ในปริมาณที่ต้องใช้ในเวลา 1 เดือนหรือครึ่งเดือนทุกๆ วันในขณะนี้

ด้านผู้สังเกตการณ์ถาวรของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เรียกร้องให้มีการกลับมาจ่ายน้ำในฉนวนกาซาทั้งหมดอีกครั้ง โดยย้ำว่าเป็นหน้าที่ของผู้ที่ทำสงครามที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าพลเรือนจะต้องไม่ได้รับความทุกข์ทรมาน พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดของพลเรือนจะกลับมาอีกครั้งโดยเร็วที่สุด

ICRC ระบุด้วยว่า พวกเขากำลังพวกพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องถึงสถานการณ์ที่บานปลายในปัจจุบัน โดยขณะนี้ ICRC มีทีมงานมากกว่า 100 คนอยู่ในฉนวนกาซา และพวกเขายังคงพยายามช่วยเหลือซ่อมแซมระบบน้ำที่เสียหาย พยายามสนับสนุนสถานพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในสถานพยาบาลอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และกำลังพยายามเตรียมการเพื่อรับมือกับผู้พลัดถิ่นหลายพันคนด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ICRC ยังพูดถึง การเข้าไปของกองทหารอิสราเอลยังฉนวนกาซา ซึ่งทำให้มีความหวั่นกลัวที่ชอบด้วยกฏหมายว่า การสู้รบบนท้องถนนอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนตามมา

//////////////////////