สรุปไทม์ไลน์ ฮามาสโจมตีอิสราเอล ประกาศภาวะสงคราม ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง     

สรุปไทม์ไลน์ ฮามาสโจมตีอิสราเอล ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีสงครามยมคิปปูร์ และยังตรงกับช่วงวันสำคัญทางศาสนาของชาวยิวหรือชาวอิสราเอล นั่นคือวันซิมหัต โทราห์ (Simchat Torah) เป็นวันที่ชาวยิวจะอ่านพระคัมภีร์โทราห์จบ และจะเริ่มต้นการอ่านพระคัมภีร์ของรอบปีถัดไป

สืบเนื่องจากช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566 ตามเวลาท้องถิ่น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มฮามาส (Hamas) หรือองค์กรการเมืองติดอาวุธของชาวปาเลสไตน์ ยิงจรวดถล่มพื้นที่ อิสราเอล ตอนใต้ โดยโจมตีด้วยขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกภายใน 20 นาที ทั้งยังส่งกองกำลังติดอาวุธ เข้าไปโจมตีในหลายเมืองตอนใต้ของอิสราเอล

เหตุการณ์นี้ทวีความรุนแรงขึ้น มีแรงงานไทยในอิสราเอล ถูกจับเป็นตัวประกัน กระทั่งนายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศภาวะสงคราม 

เปิดไทม์ไลน์ ฮามาสโจมตีอิสราเอล

เวลา 03:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

*กลุ่มฮามาสยิงจรวดจำนวนมากเข้าทางตอนใต้ของอิสราเอล และมีเสียงไซเรนดังไปไกลถึงเทลอาวีฟและเบียร์เชบา

*ฮามาสได้ยิงจรวด 5,000 ลูกในการโจมตีครั้งแรก ภายใน 20 นาที และส่งกองกำลังติดอาวุธ เข้าไปโจมตีทางหลายเมืองตอนใต้ของอิสราเอล

*กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า มีการยิงจรวด 2,500 ลูก ส่งผลให้เกิดควันลอยไปทั่วพื้นที่ที่อยู่อาศัยของอิสราเอล ผู้คนต้องหลบภัยอยู่หลังอาคารต่าง ๆ เมื่อมีเสียงไซเรนดังขึ้น

*โมฮัมเหม็ด เดอิฟ หัวหน้ากองพันอัล-กอสซัม ของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า “ขอประกาศการเริ่มต้นของปฏิบัติการอัล-อักซอ และประกาศว่าการโจมตีครั้งแรก กำหนดเป้าหมายที่ตำแหน่งของศัตรู สนามบิน และป้อมปราการทางทหาร มีขีปนาวุธและกระสุนเกิน 5,000 ลูก”

เวลา 04:40 น. ตามเวลาท้องถิ่น

*กองกำลังปาเลสไตน์อาศัยการโจมตีด้วยจรวดขีปนาวุธเป็นเครื่องกำบังดึงความสนใจของกองทัพอิสราเอล ทำให้มีนักสู้ของปาเลสไตน์จำนวนมากแทรกซึมเข้ามาในอิสราเอลได้สำเร็จ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

*กองกำลังปาเลสไตน์บางส่วนผ่านเข้ามาโดยร่มชูชีพ มีเรือยนต์ลำหนึ่งบรรทุกเครื่องบินรบมุ่งหน้าไปยังเมืองซิคิม เมืองชายฝั่งทะเลของอิสราเอลซึ่งมีฐานทัพทหาร

*มีคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นรถจักรยานยนต์อย่างน้อย 6 คัน ที่มีเครื่องบินรบกำลังข้ามช่องบนแผงกั้นโลหะ

เวลา 06:45 น. ตามเวลาท้องถิ่น

*ได้ยินเสียงระเบิดในฉนวนกาซา (ดินแดนของปาเลสไตน์ มีอาณาเขตทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นความยาวประมาณ 11 กิโลเมตรติดกับประเทศอียิปต์)

*เวลา 07:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โฆษกกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า มีการโจมตีทางอากาศใส่พื้นที่ฉนวนกาซา

เวลา 07:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

*กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นักรบปาเลสไตน์ได้เจาะเข้าไปในฐานทัพทหารอย่างน้อยสามแห่งรอบชายแดน ได้แก่ จุดผ่านแดนเอเรซ (Erez) ฐานทัพซิคิม และสำนักงานใหญ่แผนกฉนวนกาซาที่ไรม์

*วิดีโอของกลุ่มฮามาสเผยให้เห็นนักรบกำลังวิ่งไปยังอาคารที่ถูกไฟไหม้ ใกล้กับกำแพงคอนกรีตสูงที่มีหอสังเกตการณ์ คล้ายกับว่านักรบจะบุกรุกพื้นที่ส่วนหนึ่งของกองทัพอิสราเอลและยิงจากด้านหลังกำแพง

*ซาเลห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้ากลุ่มฮามาส ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ติดอาวุธ ระบุว่า “เราทุกคนต้องออกมาต่อสู้ โดยเฉพาะนักรบฝ่ายต่อต้านในเขตเวสต์แบงก์”

*เวลาต่อมาปรากฏภาพยานพาหนะทางทหารของอิสราเอลที่ยึดได้หลายคัน ถูกขับเข้าไปในฉนวนกาซา
ฮามาสโจมตี

กองกำลังปาเลสไตน์ได้บุกโจมตีเมืองซีเดฮอต (Sderot), เบเอรี (Be’eri) และเมืองโอฟาคิม (Ofakim) ซึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาไปทางตะวันออก 30 กิโลเมตร ผู้อยู่อาศัยทางตอนใต้ของอิสราเอลได้ใช้อุปกรณ์เสริมความแข็งแรงของตัวบ้าน เพื่อใช้เป็นที่หลบภัย เนื่องจากกองทหารอิสราเอลสั่งให้อยู่ภายในบ้านและคอยเคลียร์พื้นที่ด้านนอก

มาเกน เดวิด อาดอม หน่วยกู้ภัยแห่งชาติของอิสราเอล เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฮามาสยิงจรวดเข้าโจมตี มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 ราย ขณะที่โรงพยาบาลต้องรักษาผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน นอกจากนี้ แหล่งข่าวทางการแพทย์ในฉนวนกาซาระบุว่า ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 198 คนถูกสังหารหลังการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

สื่ออิสราเอลรายงานว่า มือปืนจับตัวประกันในเมืองโอฟาคิม ได้เข้าควบคุมตัวทหารอิสราเอล จับกุมตัวประกันรวมถึงแรงงานชาวไทย และนำตัวเข้าไปในฉนวนกาซา ทำให้อิสราเอลเข้าโจมตีลำบากมากขึ้น

เวลา 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

*การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไปในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ เช่นเดียวกับทางกลุ่มฮามาสยิงจรวดใส่ทางตอนใต้ของอิสราเอล

*กองทหารอิสราเอลยังคงต่อสู้กับนักรบกลุ่มฮามาสใน 22 จุดใกล้ฉนวนกาซา โดยกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า มีกองกำลังปาเลสไตน์แทรกซึมอยู่ในอิสราเอลหลายร้อยชีวิต

ชนวนเหตุการณ์โจมตีอิสราเอลอย่างรุนแรงครั้งนี้ อาจเป็นผลพวงมาจากความขัดแย้งยาวนานนับร้อยปีระหว่างชาวอาหรับปาเลสไตน์ และชาวยิวหรืออิสราเอล อีกทั้งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา อิสราเอลได้โจมตีค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์หลายครั้ง และส่วนใหญ่มีผู้เสียชีวิต ทำให้เกิดการปะทะกันจนถึงขั้นประกาศเข้าสู่ภาวะสงครามในที่สุด

อ้างอิง : AL JAZEERA